คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3321/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 135(2) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจที่จะจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไป รวมตลอดทั้งไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนหรือการจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22,114,115 ศาลฎีกาจึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของผู้รับโอนและพิจารณาฎีกาของผู้รับโอนและฎีกาของผู้รับจำนองต่อไป ให้จำหน่ายคดีเสีย.

ย่อยาว

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการโอนขายและการจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตามมาตรา 114แบะ 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมหากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ให้ผู้รับโอนหรือผู้รับจำนองใช้เงินตามราคาทรัพย์จำนวน 2,000,000 บาท แก่กองทรัพย์สินของจำเลย
ผู้รับโอนและผู้รับจำนองต่างยื่นคำคัดค้านว่า กระทำการโดยสุจริตเปิดเผย และมีค่าตอบแทน ไม่ทำให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทระหว่างจำเลยกับผู้รับโอน และให้เพิกถอนการจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวระหว่างผู้รับโอนกับผู้รับจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114, 116และให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม หากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ ให้ผู้รับโอนและผู้รับจำนองใช้เงินจำนวน 2,000,000 บาท แก่กองทรัพย์สินของจำเลย
ผู้รับโอนและผู้รับจำนองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้รับโอนและผู้รับจำนองต่างยื่นฎีกา ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้รับโอนขอถอนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลยตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 135(2) แล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2533เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจที่จะจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไป รวมตลอดทั้งไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนหรือการจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22, 114และ 115 ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของผู้รับโอนและพิจารณาฎีกาของผู้รับโอนและฎีกาของผู้รับจำนองต่อไป
จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ.

Share