แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นผู้ควบคุมการสร้างท่อประปาที่สี่แยกคลองโพธิ์อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย การก่อสร้างท่อประปาดังกล่าวไม่ถูกแบบแปลนและไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ยุติว่ามีการทุจริตหรือไม่ จำเลยที่ 1 ได้เขียนข้อความลงในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์เป็นข้าราชการที่เคยคดในข้องอในกระดูก ฉ้อราษฎร์บังหลวงทุจริตโกงกินในการสร้างท่อประปาเป็นเหตุให้บ้านเมืองฉิบหายพร้อมกับสาปแช่งโจทก์ดังนี้ ข้อความที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง ทั้งถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของหนังสือพิมพ์จะพึงกระทำ หรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นข่าวที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาทและละเมิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์รับราชการเป็นปลัดอำเภอเมืองสุโขทัยจังหวัดสุโขทัย ได้รับแต่งตั้งมอบหมายจากนายอำเภอเมืองสุโขทัยให้รับผิดชอบงานแผนกพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ คนทั่วไปเรียกสั้น ๆ ว่า “ปลัดพัฒนา” จำเลยที่ ๑เป็นเจ้าของบรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ “ชาวสยาม” จำเลยที่ ๒ เป็นภริยาจำเลยที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑ – ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๓ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยที่ ๑ เขียนหรือประพันธ์ข่าว ใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม ลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ชาวสยาม ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๓๐๑ ประจำวันที่ ๑ – ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๓ หน้า ๑ หัวข่าวว่า “ระบุผู้เหมาสร้างไม่ดี ผู้ว่าฯสั่ง ก.ก. สอบ” และมีข้อความบางตอนกล่าวว่า “ทุจริตก่อสร้างประปาครั้งใหญ่โดยใช้อำนาจหน้าที่อิทธิพล รับเหมาก่อสร้างผิดแบบและไม่เป็นไปตามสัญญาปลัดอำเภอไปว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงอีกทีหนึ่ง งบประมาณการสร้างท่อประปาครั้งนี้เป็นงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดปี ๒๒ ได้เงินงบวางท่อเป็นเงินถึง ๙๐๐,๐๐๐ บาท แต่ต่อมาเงินไม่พอ จึงได้เบิกอีก ๓๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นการไม่ถูกระเบียบนักและโดยทางปลัดผู้นี้เป็นผู้รับซื้อวัสดุก่อสร้างทุกชนิดเกี่ยวกับการวางท่อและการก่อสร้างก็เนิ่นนานล่าช้า ทั้ง ๆ ที่ตามกำหนดนั้นระยะทางวางท่อจากสี่แยกคลองโพธิ์ไปถึงตำบลบ้านกล้วยเพียง ๕ กิโลกรัมเท่านั้น แต่การก่อสร้างสิ้นเวลาปีเศษ” “ตามปกติแล้วการต่อเสาจะต้องต่อโดยบากหัวเสาแล้วเอาเหล็กบางมาประกบ และถึงจะเอาน็อตขันเข้าไปอีกทีให้แน่นหนาแต่ถ้าเป็นผู้อื่นรับเหมาแล้วปลัดพัฒนาผู้นี้จะชี้แจงเรื่องการต่อเสาดังกล่าวมาแล้ว แต่เมื่อตนเองเป็นผู้รับเหมา หากแต่ไม่ทำการที่กำหนดไว้” นอกจากนี้จำเลยที่ ๑ ยังเขียนหรือประพันธ์บทความในหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวหน้า ๕ ในคอลัมน์ “นาบสีข้าง” โดยใช้นามปากกา “สิงห์ สงคราม” มีข้อความบางตอนว่า “แต่เมื่อความระยำมันเกิดขึ้นให้เห็นตำตาจึงจำต้องพูดเสียหน่อยการสร้างท่อประปาที่สี่แยกคลองโพธิ์มันเลวเสียยิ่งกว่าเอาตีนสร้างเสียอีกนี่หรืองบประมาณการก่อสร้างที่ต้องเสียเงินร่วมล้านบาท ประชาชนได้ใช้น้ำประปาไม่ถึงปีท่อประปาที่แสนเลวก็ขาดสะบั้นแล้ว” “ดันเสือกเอาไม้ค้ำมาต่อกันไม่ถูกหลักวิชาการ ตามแบบแล้วต้องเอาเสารองรับท่อที่ไม่ต่อมารองรับแต่เมื่อต่อกันชุ่ย ๆ เพราะมันแดกมันยัดกันมันก็เป็นเช่นนี้ จะเถียงอีกไหมล่ะท่านปลัดพัฒนา” “ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพราะความเลวชาติของข้าราชการบางคน ทั้งแด็กส์ ทั้งยัด บ้านเมืองมันไม่ฉิบหายตอนนี้ไม่รู้ว่าจะฉิบหายตอนไหน เรื่อง รับเหมาก่อสร้างงี้แย่งกันยังกับหมาเห็นอาจมมันเพื่ออะไร? มันก็เพื่อยัดหัวคิวบ้าง เข้าไปฮั้วบ้าง แล้วมันก็ทุจริตโกงชาติคนหนังสือพิมพ์ต้องอดทน อดทนรอว่าเมื่อไหร่ความอัปรีย์จัญไรจะเกิดขึ้นกับผู้ทุจริต แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ เห็นหรือยังท่านประชาชนจังหวัดสุโขทัยว่าที่ผมเขียนไปนั้นมันเป็นความจริงอย่างไร” “มันอะไรกันหรือ? ท่านปลัดพัฒนาท่านปลัดอำเภอ ทีนี้ท่านจะไปโทษใครเล่า เมื่อน้ำลดตอมันโผล่ มันโผล่ออกมาแดงแจ๋ ใครรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเสือกไปโทษน้ำที่มันท่วม ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าการสร้างท่อประปากลางน้ำมันต้องทำให้ดีไม่ใช่เอาตีนเขี่ยไปเขี่ยมา โถ ไอ้น้ำระยำเสือกมาซัดเสาของกูหักฉิบหายวายป่วงสถุนส์ เงินที่เคี้ยวเข้าไป ก็คายออกมาสร้างใหม่ หรือยัดเพื่อลูกเพื่อเมียเป็นชี้ไปแล้วแหมเมียนั่งชูคอจะฟ้องคนโน่นจะฟ้องคนนี้ หาว่าพระสวามีฉันโกง สามีฉันทุจริต เอาละซี ใครโกง ใครทุจริต เห็นหรือยังว่ามันผิดคำพูดไหมล่ะนี่แหละเสือกทำความระยำเอาไว้ แม่ย่าที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองสุโขทัยกำลังลงโทษอย่างงี้ต้องเอาไปตัดหัวขั้วแห้งเจ็ดชั่วโคตรที่มันทุจริตถึงจะสาสม โอมพระสยามเทวาธิราช ขอท่านจงอย่าปรานีไอ้และอีที่คิดมิชอบต่อแผ่นดิน คดในข้อ งดในกระดูก ไอ้พวกช่อราษฎร์บัวหลวง ช่อหลวงบังราษฎร์” เกี่ยวกับการวางท่อประปาแห่งนี้ จำเลยที่ ๑ได้โฆษณาหมิ่นประมาทโจทก์ทางหนังสือพิมพ์ขาวสยามหลายครั้ง เช่นปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ ประจำวันที่ ๖ – ๑๕ เมษายน ๒๕๒๓ ลงหัวข่าวหน้า ๑ ว่า”ท่อประปาวุ่นหนักปลัดเฉยเมย” และมีข้อความบางตอนกล่าวว่า “ทุจริตสร้างท่อประปาจังหวัดสุโขทัย โดยผู้รับเหมาเป็นข้าราชการประจำใช้อำนาจหน้าที่รับเหมาโดยให้ลูกน้องเป็นผู้รับงานช่วงและงานสร้างท่อประปาซึ่งเป็นงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดปี ๒๕๒๒” “ต่อมาผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์”ชาวสยาม” ได้สืบทราบมาว่า ผู้ที่รับงานนี้ไปคือปลัดไสว อ่อนสุวรรณเป็นปลัดพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยเป็นผู้สั่งซื้อวัสดุในการก่อสร้าง”ข้อความดังกล่าวเป็นการกล่าวหาโจทก์ว่า ทุจริตใช้อำนาจหน้าที่รับเหมาก่อสร้างทำความระยำ คดในข้อ งอในกระดูก โกงกินฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เสื่อมเสียเกียรติคุณหรือทางเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ จำเลยที่ ๑ โฆษณาจำหน่ายจ่ายแจกหนังสือพิมพ์ชาวสยามฉบับดังกล่าวในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงโดยทั่วไป โจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๓
วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๓ เวลากลางวัน จำเลยที่ ๒ ได้นำหนังสือพิมพ์ชาวสยามปีที่ ๕ ฉบับที่ ๓๐๑ ประจำวันที่ ๑ – ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๓ ไปแจกจ่ายให้แก่ข้าราชการอำเภอเมืองสุโขทัย และคนอื่น ๆ หลายคน เพื่อให้ข้าราชการผู้บังคับบัญชาของโจทก์และคนทั่วไปทราบข้อความที่จำเลยที่ ๑ ใส่ความโจทก์ จำเลยที่ ๒ จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ ๑ เหตุทั้งหมดเกิดที่ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ขอคิดค่าเสียหายเป็นเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘, ๘๖, ๓๓๒ ให้จำเลยทั้งสองลงโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นจังหวัดสุโขทัย อย่างละ ๒ ฉบับ ฉบับละ ๑๒ ครั้ง โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายกับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๔๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑ มีมูลให้ประทับฟ้อง คดีสำหรับจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งส่วนอาญาและส่วนแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้การสร้างท่อประปาจะไม่ถูกแบบแปลนและไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด แต่ข้อเท็จจริงก็ยังไม่ยุติว่ามีการทุจริตหรือไม่ส่วนข้อความที่จำเลยที่ ๑ เขียนและลงพิมพ์ในคอลัมน์ “นาบสีข้าง” ที่ว่า”การสร้างท่อประปาที่สี่แยกคลองโพธิ์มันเลวเสียยิ่งกว่าเอาตีนสร้างเสียอีก””ดันเสือกเอาเสาไม้ค้ำมาต่อกันมันไม่ถูกหลักวิชาการ ตามแบบแล้วต้องเอาเสารองรับท่อที่ไม่ต่อมารอรับ แต่เมื่อต่อกันชุ่ย ๆ เพราะมันแดกมันยัดกันมันก็เป็นเช่นนี้จะเถียงอีกไหมล่ะท่านปลัดพัฒนา” “ผมไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพราะความเลวชาติของข้าราชการบางคน ทั้งแดกส์ ทั้งยัดบ้านเมืองมันไม่ฉิบหายตอนนี้ไม่รู้ว่าจะฉิบหายตอนไหน เรื่องรับเหมาก่อสร้างงี้แย่งกันยังกับหมาเห็นอาจม มันเพื่ออะไร มันก็เพื่อยัดหัวคิวบ้าง เข้าไปฮั้วบ้างแล้วมันก็ทุจริตโกงชาติ” “มันอะไรกันหรือ ท่านปลัดพัฒนา ท่านปลัดอำเภอทีนี้ท่านจะไปโทษใครเล่า เมื่อน้ำลดตอมันโผล่ มันโผล่ออกมาแดงแจ๋””เงินที่เคี้ยวเข้าไปก็คายออกมาสร้างใหม่ หรือว่ายัดเพื่อลูกเพื่อเมียเป็นขี้ไปแล้ว เอาละซี ใครโกงใครทุจริต เห็นหรือยังว่ามันผิดคำพูดไม๊ล่ะ นี่แหละเสือกทำความระยำเอาไว้แม่ย่าที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองสุโขทัยกำลังลงโทษ อย่างงี้ต้องเอาไปตัดหัวขั้วแห้งเจ็ดชั่วโคตรที่มันทุจริตถึงจะสาสม โอมพระสยามเทวาธิราชขอท่านจงอย่าปรานีไอ้และอีที่คิดมิชอบต่อแผ่นดิน คดในข้องอในกระดูกได้พวกฉ้อราษฎร์บังหลวง ฉ้อหลวงบังราษฎร์” หมายความว่า โจทก์เป็นข้าราชการที่เลว คดในข้องอในกระดูก ฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุจริตโกงกินในการสร้างท่อประปาเป็นเหตุให้บ้านเมืองฉิบหายพร้อมกับสาปแช่งโจทก์ข้อความดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์ชาวสยามซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ทั้งถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของหนังสือพิมพ์ที่จะพึงกระทำ หรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ข่าวและบทความที่จำเลยที่ ๑ เขียนดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาทและละเมิดต่อโจทก์
พิพากษากลับจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๘ ให้จำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ และให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๐,๐๐๐ บาท ฯลฯ