คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่า ได้ซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางมาจาก ว. ในราคาถุงละ 6,000 บาท เพื่อนำไปจำหน่ายในราคาถุงละ 8,000 บาท เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำสำเนาภาพถ่ายตามบัตรประจำตัวประชาชนของ ว. ให้จำเลยดู จำเลยรับรองว่าเป็นภาพถ่ายของ ว. จริง จนเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจได้ออกหมายจับ ว. ไว้ จากข้อเท็จจริงดังกล่าวนับว่าจำเลยได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ สมควรลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91, 371 และริบของกลางทั้งหมด
จำเลยให้การรับสารภาพข้อหามีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แต่ปฏิเสธข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 66 วรรคสอง พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 จำเลยอายุ 18 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน ฐานพาอาวุธปืนให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน และทางนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ส่วนฐานมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณา เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน ฐานมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนลดโทษกึ่งหนึ่ง ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 4 เดือน ฐานพาอาวุธปืน จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 22 ปี 10 เดือน 20 วัน ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ที่จำเลยฎีกาประการต่อมาขอให้ลงโทษจำคุกในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณารับฟังได้ว่า ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน จำเลยให้การว่า ได้ซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางมาจากนายวิชิตหรือตุ๋ย อิ่มใจ ราคาถุงละ 6,000 บาท พื่อนำไปจำหน่ายในราคาถุงละ 8,000 บาท ปรากฏตามบันทึกการจับกุมและบันทึกคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเอกสารหมาย จ.4 และ จ.8 เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำสำเนาภาพถ่ายตามบัตรประจำตัวประชาชนของนายวิชิตให้จำเลยดู จำเลยรับรองว่าเป็นภาพถ่ายของนายวิชิตจริงปรากฏตามเอกสารหมาย จ.5 จนเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจได้ออกหมายจับนายวิชิตไว้ปรากฏตามหมายจับเอกสารหมาย จ.12 จากข้อเท็จจริงดังกล่าวนับว่า จำเลยได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ สมควรลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า เมื่อลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 แล้ว ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายให้ลงโทษจำคุกจำเลย 20 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 13 ปี 4 เดือน เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนแล้ว เป็นจำคุก 13 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share