คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3303/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ตามสัญญาประกันภัยแบบสหการ(Mutual Insurance) ซึ่งเรียกกัน ทั่วไปว่า พี แอนด์ ไอ คลับ(P & I Club) เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 3 สิ้นสุดการเป็นสมาชิกจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการออกจากการเป็นสมาชิกให้แก่โจทก์ ตามข้อตกลงที่ได้มีการกำหนดไว้ในระหว่างโจทก์และสมาชิกผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็น การบังคับให้เป็นไปตามเจตนาที่แสดงไว้ในสัญญานั้น ค่าธรรมเนียมการออกจากการเป็นสมาชิกของโจทก์ย่อมพึงต้องพิจารณาตามเนื้อความแห่งกฎระเบียบและข้อบังคับเป็นหลัก ส่วนจะใช้ชื่อเรียกว่าอย่างไรนั้นไม่ใช่ ข้อสาระสำคัญ การเรียกชื่อเป็นเพียงนามเรียกขานซึ่งอาจจะเรียกแตกต่างกันไปได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมหากพ้นจากการเป็นสมาชิกของโจทก์ตามข้อบังคับของโจทก์ ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกับที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเมื่อสิ้นสุดการเป็นสมาชิก ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดในค่าธรรมเนียมดังกล่าวมานั้นหาได้ขัดต่อกฎหมาย วิธีพิจารณาความไม่

ย่อยาว

โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการรับประกันภัยแบบสหการ (Mutual Insurance) ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า พี แอนด์ ไอ คลับ (P & I Club) โจทก์กับจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ ทำสัญญา ประกันภัยแบบสหการ กล่าวคือจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เข้าร่วมเป็นสมาชิกในฐานะเป็นผู้เอาประกันภัยกับโจทก์ในการที่จะประกันภัยซึ่งกันและกันระหว่างผู้เอาประกันภัยรายอื่น ๆ ซึ่งเป็นสมาชิกของโจทก์เพื่อคุ้มครองความเสียหาย ทางทะเล ซึ่งอาจเกิดแก่เรือเดินทะเล หรือความรับผิดใดที่เรือเดินทะเลลำที่เอาประกันภัยจะต้องรับผิดต่อ บุคคลภายนอก ซึ่งตามข้อตกลงจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า รีลีส คอลส์ (Release Calls) แก่โจทก์เมื่อสิ้นสุดการเป็นสมาชิก แต่จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ผิดสัญญาไม่ยอมชำระค่าธรรมเนียมเมื่อสิ้นสุดการเป็นสมาชิก โจทก์ได้ทวงถามและมอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ต่อสู้ว่าไม่เคยตกลงกับโจทก์ว่าหากจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ สิ้นสุดการ เป็นสมาชิก จะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้โจทก์แต่อย่างใด
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า การที่สมาชิกผู้เอาประกันภัย จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้มีการกำหนดไว้ในระหว่างโจทก์และ สมาชิกผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามเจตนาที่แสดงไว้ใสัญญานั้น กรณีดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ได้โต้แย้งว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ไม่ได้รับทราบกฎระเบียบ ข้อบังคับของโจทก์ ทั้ง ๆ ที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เข้าเป็นสมาชิกเอาประกันภัยแบบสหการไว้กับโจทก์ตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เพิ่งมาโต้แย้งว่าไม่ทราบกฎระเบียบข้อบังคับดังกล่าวหลังจากถูกฟ้องคดีนี้แล้ว จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ เพื่อให้ตนพ้นความรับผิดโดยหามีเหตุผลหรือกฎหมายสนับสนุนแต่อย่างใดไม่
ปัญหาต้องวินิจฉัยอีกประการมีว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามรับผิดในหนี้ค้างชำระที่เรียกว่า รีลีส คอลส์ (Release Calls) แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏว่าในข้อบังคับของโจทก์ไม่มีคำว่ารีลีส คอลส์ (Release Calls) อยู่เลย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษาให้จำเลยทั้งสามต้องชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้โจทก์จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความนั้น เห็นว่า ค่าธรรมเนียมการออกจากการเป็นสมาชิกของโจทก์ย่อมพึงต้องพิจารณาตามเนื้อความแห่งกฎระเบียบและข้อบังคับเป็นหลัก ส่วนจะใช้ชื่อเรียกว่าอย่างไรนั้นไม่ใช่ ข้อสาระสำคัญ การเรียกชื่อเป็นเพียงนามเรียกขานซึ่งอาจจะเรียกแตกต่างกันไปได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมหากพ้นจากการเป็นสมาชิกของโจทก์ตามข้อบังคับของโจทก์ ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกับที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเมื่อสิ้นสุดการเป็นสมาชิกที่เรียกว่ารีลีส คอลส์ ดังนี้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสามรับผิดในค่าธรรมเนียมดังกล่าว มานั้นหาได้ขัดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความไม่ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน.

Share