คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าสวนเช่านากันแล้ว ผู้ให้เช่าไปชี้เขตที่เช่าให้แก่ผู้เช่า แต่ปรากฎว่าผู้เช่าเข้าไปครอบครองไม่ได้ เพราะบุตรของผู้เช่าคนเดิมยังปลูกเรือนอยู่ในที่เช่า และยังแย่งทำนาเสียด้วย ดังนี้ ถือว่าผู้ให้เช่าไม่อาจมอบที่เช่าให้ผู้เช่าได้ จึงกต้องคืนค่าเช่าและใช่ค่าเสียหายให้แก่ผู้เช่า

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่า โจทก์เช่าที่ธรณีสงฆ์ของวัดสระ+ขาว เพื่อทำนาทำสวน จากจำเลยผู้เป็นศึกษาธิการผู้แทนกองศาสนาสมบัติ กรมการศาสนา โจทก์ได้ชำระค่าเช่าให้จำเลยครบถ้วนแล้ว แต่จำเลย จัดการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ไม่ได้เพราะผู้เช่าเดิมรบกวนสิทธิ จึงขอให้จำเลยคืนเงินค่าเช่า และค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า ได้ส่งมอบทรัพย์ที่เช่าแก่โจทก์แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงินค่าเช่า ๖๐๑ บาทกับใช้ค่าเสียหาย ๑๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ทางพิจารณาปรากฎว่า นายจอนได้เข้าอยู่ในที่เช่าโดยชอบมาก่อนแล้วพร้อมทั้งนายเจิงบุตร ต่อมาเมื่อการเช่าของนายจอนสิ้นสุดลง และจำเลยตกลงให้โจทก์เป็นผู้เช่าต่อไป ก็เป็นหน้าที่จำเลยจะจัดการให้ โจทก์เข้าครอบครองโดยปราศจากการรบกวนใดๆ แต่จำเลยไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีนายเจิงคงปลูกกระท่อมอยุ่ในที่เช่าทั้งแย่งทำนาเสียด้วย ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า การที่จำเลยชี้เขตที่เช่าให้แก่โจทก์นั้นสักแต่ทำเป็นพิธี ไม่อาจมอบที่เช่าให้อยู่ในเงื้อมมือของโจทก์ได้ดัง ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไว้เป็นการชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share