คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรู้ตัวว่าผู้ตายจะเข้ามาหาจำเลย จำเลยห้ามและเตรียมปืนไว้เพื่อยิงผู้ตาย ผู้ตายมาเคาะประตูห้องนอนเรียกให้เปิดประตู จำเลยถือปืนเตรียมพร้อมแล้วเปิดประตู ผู้ตายจะก้าวเข้ามา จำเลยพูดว่าไม่ต้องเข้ามาและยิงปืนไปทันที ดังนี้ เห็นว่าผู้ตายไปหาจำเลยตามที่เคยกระทำมา แม้จำเลยจะห้ามก็ไม่ทำให้ผู้ตายเข้าใจว่าเป็นจริงจัง เมื่อผู้ตายไปหาจำเลยก็เคาะประตูเรียกหาใช่ใช้กำลังดึงดันจะเข้าไปให้ได้ไม่ จะว่าเป็นการประทุษร้ายอันผิดกฎหมายหาได้ไม่ หากจำเลยไม่คิดฆ่านายเหรียญผู้ตายเพียงแต่ไม่เปิดประตู และแสดงความไม่ยินยอมให้เห็นอย่างจริงจัง ผู้ตายก็คงยังเข้าไปทำอันตรายแก่จำเลยไม่ได้ แต่จำเลยกลับเปิดประตูห้อง ซึ่งเป็นธรรมดาที่ผู้ตายจะต้องเข้าไป พอผู้ตายเข้าไปจำเลยก็ยิงทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนลูกซองยิงนายเหรียญตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ลดโทษกึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลย ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษเบาลงอีก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ผู้พิพากษานายหนึ่งมีความเห็นแย้ง
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่านายเหรียญจะเข้ามาหาจำเลยในคืนนั้น จำเลยห้ามและเตรียมปืนไว้เพื่อยิงนายเหรียญ ไม่มีทางจะฟังว่าจำเลยยิงนายเหรียญเพื่อป้องกันสิทธิแต่ประการใด จำเลยให้การชั้นสอบสวนว่านายเหรียญมาเคาะประตูห้องนอนเรียกให้เปิดประตู จำเลยถือปืนเตรียมพร้อมแล้วค่อย ๆ เปิดประตู นายเหรียญก้าวเข้ามา จำเลยพูดว่าไม่ต้องเข้ามา และยิงปืนไปทันที ดังนี้ เห็นได้ว่านายเหรียญไปหาจำเลยตามที่เคยกระทำ แม้จำเลยจะห้ามก็ไม่ทำให้นายเหรียญเข้าใจว่าเป็นการจริงจังอย่างใด เมื่อนายเหรียญไปหาจำเลย นายเหรียญก็เคาะประตูเรียกให้จำเลยเปิดประตูตามปกติของคนที่ไปมาหาสู่กัน หาใช่ใช้กำลังดึงดันจะเข้าไปให้ได้ไม่ จะว่าเป็นการประทุษร้ายอันผิดกฎหมายหาได้ไม่ หากจำเลยไม่คิดฆ่านายเหรียญ เพียงแต่ไม่เปิดประตูและแสดงความไม่ยินยอมให้เห็นอย่างจริงจัง นายเหรียญก็คงเข้าไปทำอันตรายจำเลยไม่ได้ แต่จำเลยกลับเปิดประตู ซึ่งเป็นธรรมดานายเหรียญจะต้องเข้าไป พอนายเหรียญจะก้าวเข้าไป จำเลยก็ยิงทันที การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามมาตรา ๖๘
พิพากษายืน.

Share