แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีนั้น นอกจากคู่ความในคดีแล้วจะต้องเป็นบุคคลที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 กำหนดไว้ ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้โต้แย้งสิทธิกับผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดในคดีนี้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ซื้อในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมิใช่บุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 บัญญัติไว้ ย่อมมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับการบังคับคดี ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีว่า โจทก์จะขอถอนการยึดทรัพย์ภายหลังที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นไปแล้วได้หรือไม่
ศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามวันนัดที่นัดไว้แล้วผู้ร้องก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟังก่อน เมื่อศาลชั้นต้นอ่านให้ผู้ร้องฟังแล้ว สิทธิในการฎีกาของผู้ร้องจึงจะเริ่มนับหรือถ้าศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมอ่าน ผู้ร้องจึงจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ การที่ผู้ร้องใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเสียก่อนเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันชำระหนี้และไถ่ถอนจำนองโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล โดยจำเลยทั้งสองยอมผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์แต่ผิดนัด โจทก์ได้ดำเนินการบังคับคดี คดีมีปัญหามาสู่ศาลเฉพาะการขายทอดตลาดทรัพย์รายการที่ 1 คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 3451 และเลขที่ 3455 พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่นายธีระ ซึ่งเป็นผู้ให้ราคาสูงสุด
ในระหว่างที่คดีมีปัญหามาสู่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาว่าการขายทอดตลาดทรัพย์เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลลงชื่อผู้ร้องเป็นผู้รับโอนทั้งสิทธิและหน้าที่ในทรัพย์ที่ขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
ต่อมาศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟัง โดยศาลฎีกาพิพากษาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนการขายทอดตลาดนั้น ถือไม่ได้ว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หลังจากนั้นผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้ฟ้องนายธีระแล้วเพื่อให้โอนสิทธิและหน้าที่ในการซื้อทรัพย์ให้แก่ผู้ร้อง ขอให้รอการโอนทรัพย์ไว้ชั่วคราวในระหว่างการพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์ทั้งสองฉบับรวมกับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และนายธีระ ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ส่งหมายนัดให้นายธีระไม่ได้ จึงเลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 2 พฤษภาคม 2523
ก่อนถึงวันนัดคือเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2523 โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินการบังคับคดีต่อไป ขอถอนการยึดทรัพย์ ในวันนั้นทนายโจทก์จำเลยและนายธีระมาศาลด้วย ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ถอนการบังคับคดี และได้อ่านคำพิพากษาให้ผู้ที่มาศาลฟัง และสั่งงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่นัดไว้วันที่ 2 พฤษภาคม 2523
วันที่ 11 เมษายน 2523 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้โจทก์ถอนการยึดทรัพย์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ยังไม่มีเหตุผลที่จะเพิกถอนคำสั่ง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีนั้น นอกจากคู่ความในคดีแล้วจะต้องเป็นบุคคลที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 280 กำหนดไว้ ผู้ร้องเป็นแต่เพียงผู้โต้แย้งสิทธิกับผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดในคดีนี้ว่า ผู้ซื้อทรัพย์ซื้อในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ร้อง แม้ในคดีที่ผู้ร้องฟ้องผู้ซื้อทรัพย์ ศาลจะสั่งห้ามผู้ซื้อทรัพย์มิให้โอนขายหรือจำหน่ายทรัพย์ที่ซื้อ เมื่อผู้ร้องมิใช่บุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 บัญญัติไว้ ผู้ร้องก็ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับการบังคับคดี ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีว่า โจทก์จะขอถอนการยึดทรัพย์ภายหลังที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นไปแล้วได้หรือไม่
ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาเรื่องศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟัง เป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่อาจฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ขอให้ศาลฎีกาเพิกถอนกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 140 บัญญัติให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง เมื่อศาลชั้นต้นงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามวันนัดที่นัดไว้แล้ว เป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ผู้ร้องก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟังก่อน เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟังแล้ว สิทธิในการฎีกาของผู้ร้องจึงจะเริ่มนับ หรือถ้าศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องฟัง ผู้ร้องจึงจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ การที่ผู้ร้องใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเสียก่อน เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
พิพากษายืน