คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยขับรถหลบรถของ ผ. ที่ขับสวนล้ำเส้นทางมาในระยะกระชั้นชิด จึงบังคับรถไม่ได้ ไปชนรถของโจทก์ที่คนขับหลบรถออกนอกเขตถนนมา ดังนี้ ไม่ใช่จำเลยประมาทแต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย

ย่อยาว

คนร้ายลักรถยนต์ของโจทก์และของ ผ. ขับคู่กันมาตามถนน รถของโจทก์คนร้ายขับอยู่ทางซ้าย รถของ ผ. ขับอยู่ทางขวาของโจทก์ล้ำเข้ามาในทางของรถที่จำเลยขับสวนมา มีรถสิบล้อขับอยู่หน้ารถจำเลย จำเลยขับหลบรถของ ผ. ไปทางขวาโดยไม่เห็นไฟรถของโจทก์ เพราะรถสิบล้อ บังรถของโจทก์กับรถจำเลยหลบไปทางเดียวกัน จึงชนกันนอกเขตถนน ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยละเมิด พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 20,000 บาท จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ศาลฎีกาเชื่อว่าเมื่อลักรถยนต์ของโจทก์ที่ 1และรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ แล้ว คนร้ายก็ขับรถยนต์ทั้ง 2 คันคู่กันไป โดยคนร้ายคนหนึ่งขับรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ทางด้านซ้ายของถนน และคนร้ายอีกคนหนึ่งขับรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ ทางด้านขวาของรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 โดยขับล้ำเข้าไปในเส้นทางของรถยนต์ที่แล่นสวนทางมา การที่นายจำรัสหันหัวรถยนต์ของจำเลยไปทางขวาเชื่อว่าคนร้ายขับรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ มาในเส้นทางของรถยนต์ของจำเลย นายจำรัสจึงหันหัวรถยนต์ของจำเลยไปทางขวาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ มาชนรถยนต์ของจำเลย หากนายจำรัสเห็นแสงไฟของรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 นายจำรัสก็ไม่น่าจะหลบไปทางขวา เพราะถึงหลบไปก็จะต้องถูกรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ชนในเส้นทางของรถยนต์ของโจทก์ที่ 1นายจำรัสน่าจะยอมให้รถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ ชนรถยนต์ของจำเลยในเส้นทางของรถยนต์ของจำเลยมากกว่า เชื่อว่านายจำรัสไม่เห็นแสงไฟของรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 เพราะรถบรรทุกสิบล้อที่แล่นอยู่ข้างหน้ารถยนต์ของจำเลยหลบรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ บังรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 และบังแสงไฟของรถยนต์ของโจทก์ที่ 1ส่วนเหตุที่รถยนต์ของโจทก์ที่ 1 แล่นออกนอกเขตถนนนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะคนร้ายขับหลบรถบรรทุกสิบล้อที่หลบรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ มากกว่า เมื่อนายจำรัสหันหัวรถยนต์ของจำเลยไปทางขวา เพื่อหลบไม่ให้ชนกับรถยนต์ของนายถ่อง แซ่ลี้ในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถยนต์ของจำเลยซึ่งบรรทุกสินค้ามาเต็มคันรถและมีน้ำหนักมากเสียหลักการทรงตัว นายจำรัสไม่อาจบังคับให้รถยนต์ของจำเลยแล่นไปตามถนนได้และเป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยแล่นออกนอกเขตถนนไปชนรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 การที่รถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 จึงไม่ใช่เป็นเพราะความประมาทของนายจำรัสลูกจ้างของจำเลย แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัยดังที่จำเลยฎีกา จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสอง”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share