คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3252/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยปลอมลายมือชื่อของ ช. กรรมการผู้จัดการบริษัท น. ในคำขอจดทะเบียนบริษัท แล้วนำคำขอนั้นไปยื่นต่อนายทะเบียนเพื่อให้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทดังกล่าว โดยถอนชื่อผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการบริษัท น. ออกจากตำแหน่ง อันทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสถานะและความเป็นผู้แทนนิติบุคคลของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยเฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และเป็นผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) มีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในความผิดดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 30

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัดเลขที่ 406/2542 ด้วยการลงลายมือชื่อปลอมของนายชูเกียรติ พันธ์นิกุล ผู้เสียหาย ในช่องกรรมการผู้มีอำนาจผู้ขอจดทะเบียน แล้วนำคำขอจดทะเบียนดังกล่าวไปยื่นต่อนายเกษศิริ สุวพงษ์ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขอเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทเนวาด้า จำกัด โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายเกษศิริ นายชูเกียรติบริษัทเนวาด้า จำกัด ผู้อื่นและประชาชน หลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานยึดคำขอจดทะเบียนบริษัทและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียหายที่จำเลยทำปลอมขึ้นเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 91, 32, 33 และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นายพูลสวัสดิ์ พันธ์นิกุล ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์อ้างว่าเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเนวาด้า จำกัด และได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลย เนื่องจากหากนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดอุบลราชธานี หลงเชื่อตามที่จำเลยหลอกลวงและรับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทย่อมทำให้ผู้ร้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริษัทดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องมิใช่ผู้เสียหาย ขอให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวอ้างมาในคำฟ้องไม่เป็นผลโดยตรงให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นายพูลสวัสดิ์ เข้าเป็นโจทก์ร่วมจึงเป็นการสั่งโดยผิดหลงให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและมีคำสั่งใหม่เป็นว่าให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้นายพูลสวัสดิ์ พันธ์นิกุล ผู้ร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่านายพูลสวัสดิ์พันธ์นิกุล ผู้ร้อง เป็นผู้เสียหายและมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการหรือไม่ เห็นว่า หากข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำฟ้องและคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ว่า จำเลยได้ปลอมลายมือชื่อของนายชูเกียรติ พันธ์นิกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเนวาด้าจำกัดในคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด แล้วนำคำขอจดทะเบียนนั้นไปยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทดังกล่าวโดยถอนชื่อของผู้ร้องซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเนวาด้า จำกัด ออกจากตำแหน่งการกระทำของจำเลยย่อมเกิดผลกระทบโดยตรงต่อสถานะและความเป็นผู้แทนนิติบุคคลของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลย เฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) มีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในความผิดดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 30 ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งให้นายพูลสวัสดิ์ผู้ร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์และมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าผู้ร้องเป็นผู้เสียหายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ผู้ร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์โดยไม่ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานใด สมควรแก้ไขให้ถูกต้อง”

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นายพูลสวัสดิ์ พันธ์นิกุล ผู้ร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์เฉพาะในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268

Share