คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3252/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องโจทก์ยอมรับว่าจำเลยยังเปิดทางกว้าง 1 เมตร จากที่ดินโจทก์ผ่านที่ดินของจำเลยไปสู่ทางสาธารณะได้ แต่โจทก์ขอให้จำเลยเปิดทางกว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร เพื่อให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกได้ด้วย โจทก์จำเลยจึงมีข้อพิพาทกันเฉพาะทางส่วนที่กว้างเกินกว่า 1 เมตร ที่พอจะให้รถยนต์แล่นเข้าออกได้เท่านั้น
แม้โจทก์จะบรรยายมาในฟ้องอ้างว่าที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นที่ดินที่แบ่งแยกมาจากโฉนดเดียวกัน เป็นเหตุให้ที่ดินของโจทก์ตกอยู่ด้านในไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ แต่ปรากฏจากคำฟ้องว่ามีทางออกจากที่ดินโจทก์ไปสู่ทางสาธารณะแล้ว และโจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่า โจทก์ได้ใช้บางส่วนของที่ดินของจำเลยเป็นทางสำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมาเป็นเวลาติดต่อกันรวม 31 ปีโดยไม่มีผู้ใดห้ามปราม แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะอ้างว่า ทางพิพาทส่วนที่กว้างเกินกว่า 1 เมตรนั้น เป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ได้มาโดยอายุความซึ่งจำเลยก็เข้าใจคำฟ้องของโจทก์ว่าเป็นเช่นนั้น เพราะจำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่เคยใช้ที่ดินบางส่วนของจำเลยเป็นทางสำหรับรถยนต์เข้าออกสู่ทางสาธารณะเป็นเวลา 31 ปี ตามคำฟ้องโจทก์เพิ่งจะนำรถยนต์เข้าจอดในที่ดินของจำเลยเมื่อประมาณ 3 ปีมานี้ประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่า โจทก์ได้ใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกทางพิพาทสู่ทางสาธารณะจนได้อายุความหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นเรื่องทางจำเป็น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาเรียกร้องให้จำเลยรื้อรั้วคอนกรีตเปิดทางให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกทางพิพาทเพราะเป็นทางจำเป็นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินของโจทก์และจำเลยทั้งสองเป็นที่ดินโฉนดเดียวกันเมื่อมีการแบ่งแยกเป็นเหตุให้ที่ดินของโจทก์ไม่มีทางออกสู่ถนนสาธารณะ โจทก์ได้ใช้ที่ดินบางส่วนของที่ดินของจำเลยทั้งสองเป็นทางสำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะเป็นเวลาติดต่อกันรวมา ๓๑ ปี โดยไม่มีผู้ใดห้ามปราม ต่อมาจำเลยทั้งสองทำรั้วคอนกรีตปิดกั้นทางเข้าออกดังกล่าวเหลือช่องทางออกกว้างประมาณ ๑ เมตร เป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถใช้ทางดังกล่าวสำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะได้ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนรั้วคอนกรีตเปิดทางให้ไม่น้อยกว่า ๔ เมตร ให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกจากที่ดินของโจทก์สู่ทางสาธารณะได้ หากจำเลยทั้งสองไม่ยอมรื้อก็ให้โจทก์รื้อถอนเอง และให้จำเลยทั้งสองออกค่าใช้จ่ายแทน
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่เคยใช้ที่ดินบางส่วนของจำเลยเป็นทางสำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกตามฟ้อง โจทก์เคยใช้ทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะผ่านที่ดินของโจทก์ด้วยการเดินและเป็นทางกว้างประมาณ ๑ เมตรเท่านั้น โจทก์เพิ่งนำรถยนต์เข้ามาจอดในที่ดินของจำเลยเมื่อประมาณ ๓ ปีมานี้ โจทก์ไม่มีสิทธิให้จำเลยรื้อถอนรั้วและเปิดทางได้ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาแรกตามฎีกาโจทก์ว่า ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นการฟ้องให้จำเลยรื้อถอนรั้วคอนกรีตเปิดทางพิพาทเพื่อให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกจากที่ดินของโจทก์สู่ทางสาธารณะ โดยอ้างสิทธิว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมหรืออ้างสิทธิในเรื่องทางจำเป็น
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ โจทก์ยอมรับว่าจำเลยทั้งสองยังเปิดทางกว้างประมาณ ๑ เมตร จากที่ดินของโจทก์ผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสองไปสู่ทางสาธารณะได้ แต่โจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองเปิดทางกว้างไม่น้อยกว่า ๔ เมตรเพื่อให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกได้ด้วย โจทก์จำเลยจึงมีข้อพิพาทกันเฉพาะทางส่วนที่กว้างเกินจากประมาณ ๑ เมตร ที่พอจะให้รถยนต์แล่นเข้าออกได้เท่านั้น แม้โจทก์จะบรรยายมาในฟ้องอ้างว่าที่ดินของโจทก์และของจำเลยทั้งสองเป็นที่ดินที่แบ่งแยกมาจากโฉนดเดียวกัน เป็นเหตุให้ที่ดินของโจทก์ตกอยู่ด้านในไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะก็ตาม แต่เมื่อปรากฏจากคำฟ้องว่ามีทางออกจากที่ดินโจทก์ไปสู่ทางสาธารณะแล้วและโจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่า หลังจากโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์แล้ว โจทก์ได้ใช้บางส่วนของที่ดินของจำเลยทั้งสองเป็นทางสำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่ออยมาเป็นเวลาติดต่อกันรวม ๓๑ ปี โดยไม่มีผู้ใดห้ามปรามแสดงให้เห็นว่าโจทก์ประสงค์จะอ้างว่าทางพิพาทส่วนที่กว้างเกินกว่า ๑ เมตรนั้นเป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ได้มาโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๔๐๑ ประกอบด้วยมาตรา ๑๓๘๒ แม้จำเลยก็เข้าใจคำฟ้องของโจทก์ว่าเป็นที่ดังกล่าว เพราะจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่เคยใช้บางส่วนของที่ดินจำเลยเป็นทางสำหรับรถยนต์เข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมาเป็นเวลา ๓๑ ปี ตามคำฟ้องความจริงโจทก์เพิ่งจะนำรถยนต์เข้าจอดบนที่ดินของจำเลยเมื่อ ๓ ปีมานี้เท่านั้น ดังนั้นประเด็นข้อพิพาทตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การจำเลยจึงมีว่าโจทก์ได้ใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกสู่ทางสาธารณะจนได้อายุความหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นเรื่องทางจำเป็นตามที่โจทก์ฎีกา ดังนั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิ์ฎีกาเรียกร้องให้จำเลยรื้อรั้วคอนกรีตเปิดทางให้รถยนต์แล่นผ่านเข้าออกทางพิพาทเพราะเป็นทางจำเป็นได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์ต่อไป
พิพากษายืน

Share