แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภริยามีโรคประจำตัวไม่สามารถนอนร่วมกับสามีได้จึงต่างคนต่างอยู่มาประมาณ 30 ปีเพียงเท่านี้ ไม่ถือว่าขาดจากสามีภริยากัน.
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องขอแบ่งมฤดก จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ที่ ๑ ไม่มีสิทธิในกองมฤดก เพราะถึงแม้จะเตยเป็นภริยาหลวงจรัล แต่ก็ได้หย่าขาดกันแล้ว และอ้างว่าโจทก์ไม่มีสินเดิมมา ศาลชั้นต้วินิจฉัยว่าโจทก์ที่ ๑ กับหลวงจรัสยังไม่ขาดจากสามีภริยากัน และฟังว่าโจทก์มีสินเดิมมา ๑๒๐ บาท จำเลยมี ๕๒๗ บาท จึงพิพากษาให้แบ่งมฤดกระหว่างทายาทตามส่วนและให้โจทก์เป็นผู้จัดการศพหลวงจรัส
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ฉะเพาะเรื่องจัดการศพให้จำเลยเป็นผู้จัดการ
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าในประเด็นที่ว่าโจทก์ที่ ๑ ขาดจากการเป็นภริยาหลวงจรัสหรือไม่นี้ ได้ความเพียงว่าโจทก์ที่ ๑ มีโรคประจำตัวไม่สามารถหลับนอนกับหลวงจรัสได้ จึงต่างคนต่างอยู่ตลอดมาหลังจากเกิดบุตรคนที่ ๒ แล้ว ไม่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมหย่าขาดจากกันหรือโดยศาลพิพากษา ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงเรื่องความประพฤติบางอย่างที่ทำให้สามีภริยาขาดจากกันตามกฎหมายเก่า ฉะนั้นโจทก์จึงไม่ขาดจากสามีภริยากับหลวงจรัสและประเด็นเรื่องโจทก์เป็นภริยาร้างก็เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้น จึงไม่ต้องวินิจฉัยถึง พิพากษายืน.