คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3242/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ว่าจ้างจำเลยติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เมื่อสัญญาครบกำหนดแล้ว จำเลยยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ต่อมาจำเลยทำบันทึกยอมรับว่าจำเลยไม่สามารถดำเนินการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสัญญา จำเลยขอเลิกสัญญาและยอมใช้ค่าเสียหายตามสัญญาให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย สำหรับค่าเสียหายนั้นเป็นค่าเสียหายที่จำเลยตกลงชำระตามบันทึกขอเลิกสัญญาดังกล่าว จึงไม่ใช่เบี้ยปรับเพราะมิได้เป็นค่าเสียหายที่คู่ความตกลงกันไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการไม่ชำระหนี้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2526 โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่อาคารของกองทัพอากาศ จำเลยสัญญาว่าจะทำให้เสร็จและส่งมอบงานให้แก่โจทก์ภายในวันที่ 7 เมษายน 2527 ถ้าจำเลยส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนด จำเลยยอมให้โจทก์ปรับวันละ 1,130 บาทจนกว่าจะแล้วเสร็จ ต่อมาจำเลยผิดสัญญา โดยไม่สามารถจัดหาและติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ จนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2527 จำเลยได้บอกเลิกสัญญา และยอมรับจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์จนถึงวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 29,380 บาท และเป็นเหตุให้โจทก์ต้องส่งมอบงานให้กองทัพอากาศล่าช้า ถูกปรับ 146,160 บาท โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงขอคิดค่าเสียหายใน ส่วนนี้ 50,000 บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 225,540 บาท ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ผิดสัญญา โจทก์ไม่ชำระเงินให้แก่จำเลยตามสัญญาและขอร้องให้จำเลยเลิกสัญญากับโจทก์ สัญญาตามฟ้องจึงเลิกกัน เหตุแห่งความล่าช้าเกิดจากโจทก์เอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิปรับจำเลย การที่โจทก์ส่งมอบงานให้กองทัพอากาศล่าช้าเป็นเพราะความผิดของโจทก์ จำเลยไม่ต้องรับผิด ค่าเสียหายต่อชื่อเสียงโจทก์คำนวณเอาเองจำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยชอบที่จะเลิกสัญญากับโจทก์ได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระค่าเสียหาย 29,380 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่อาคารกรมแพทย์ทหารอากาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2526 กำหนดทำให้แล้วเสร็จภายในเวลา 120 วันเมื่อสัญญาครบกำหนดแล้ว ปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2527 จำเลยได้ทำบันทึกขอเลิกสัญญากับโจทก์ไว้ที่ด้านหลังสัญญาว่าจ้าง เห็นว่า จำเลยยอมรับว่า จำเลยไม่สามารถดำเนินการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสัญญาได้จำเลยจึงขอเลิกสัญญาและยอมใช้ค่าเสียหายตามสัญญาให้แก่โจทก์โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ สำหรับค่าเสียหายนั้นเป็นค่าเสียหายที่จำเลยตกลงชำระตามบันทึกของเลิกสัญญาว่าจ้างจึงไม่ใช่เบี้ยปรับเพราะมิได้เป็นค่าเสียหายที่คู่ความตกลงกันไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการไม่ชำระหนี้ ทั้งเบี้ยปรับตามสัญญาเป็นเบี้ยปรับเพื่อการส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนด หาใช่เป็นเบี้ยปรับเพื่อการไม่ชำระหนี้ไม่ เมื่อจำเลยตกลงชำระค่าเสียหายโดยให้มีการคำนวณกันตามข้อตกลงในสัญญา จำเลยต้องชำระให้โจทก์ตามนั้น
พิพากษายืน.

Share