คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3240/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) มีชื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครองในเบื้องต้นจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ม. มารดาจำเลยปักเสาไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าผ่านที่พิพาทของโจทก์โดยโจทก์มิได้ยินยอมจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์เมื่อ ม. ถึงแก่ความตายจำเลยเป็นทายาทผู้รับมรดกของ ม.จึงต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่พิพาท เมื่อเดือนมีนาคม 2529 นางมีมารดาจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่ 3ทำการปักเสาไฟฟ้าในที่ดินของโจทก์แล้วเดินสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ ต่อมานางมีถึงแก่ความตายจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกของนางมีจึงมีหน้าที่รื้อถอนเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันรื้อถอนเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าที่ปักวางผ่านที่ดินของโจทก์กับทำที่ดินของโจทก์ให้เป็นดังเดิม
จำเลยที่ 1 ให้การและแก้ไขคำให้การว่า โจทก์ได้แบ่งขายที่พิพาททางทิศเหนือให้แก่จำเลยที่ 3 เนื้อที่ 56 ตารางเมตรเศษต่อมาจำเลยที่ 3 ขายที่ส่วนดังกล่าวให้นางมีมารดาจำเลยที่ 1นางมีได้ทำการปักเสาไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าเข้าบ้านผ่านที่ดินแปลงนี้โดยโจทก์ไม่ขัดขวาง จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ได้เข้าเกี่ยวข้องกับการกระทำของนางมี การกระทำของนางมีไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ให้การและแก้ไขคำให้การว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์จำเลยที่ 3 ไม่ได้ร่วมกับจำเลยอื่นทำการดังที่โจทก์กล่าวอ้างขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 รื้อถอนเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าที่ปักวางผ่านที่ดินของโจทก์ ทำที่ดินของโจทก์ให้เป็นดังเดิม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)ตามเอกสารหมาย จ.1 มีชื่อโจทก์เป็นผู้ครอบครองในเบื้องต้นจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 และฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท การที่มารดาจำเลยที่ 1 ปักเสาไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าผ่านที่ดินพิพาทของโจทก์เป็นการละเมิดต่อโจทก์จำเลยที่ 1 เป็นทายาทผู้รับมรดกของนางมีจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษายืน

Share