คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3221/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจระบุให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจแต่งตั้งทนายความดำเนินคดีและแก้ต่างทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาแทนโจทก์และมีอำนาจมอบอำนาจช่วงให้บุคคลอื่นดำเนินการดังกล่าวได้การมอบอำนาจให้แต่งตั้งทนายความดำเนินคดีนั้นย่อมหมายความรวมถึงการฟ้องคดีหรือว่าต่างคดีด้วยเมื่อผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจที่จะมอบอำนาจช่วงได้ ป. และ ต. ผู้รับมอบอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจจึงมีอำนาจมอบอำนาจช่วงให้ ว. ฟ้องจำเลยทั้งสองแทนโจทก์ได้ แม้โจทก์จะมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้อันเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา88ก็ตามแต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีโดยฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวศาลก็มีอำนาจรับฟังเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87(2)เมื่อหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญในประเด็นแห่งคดีศาลจึงมีอำนาจที่จะรับฟังเอกสารดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ โดย นาย วิเชียร เตชะไพบูลย์ และ นาย เกรียง โกสียตระกูล กรรมการ ผู้มีอำนาจ ได้ มอบอำนาจ ให้ นาย เติมพงศ์ เอกประสิทธิกุล และ นาย ประสิทธิ์ ซื่อประสิทธิผล มีอำนาจ กระทำการ แทน โจทก์ และ มีอำนาจ มอบอำนาจ ช่วง ได้ นาย เติมพงศ์ และ นาย ประสิทธิ์ ได้ มอบอำนาจ ช่วง ให้ นาย วินัย โพธิ์ทอง เป็น ผู้ ฟ้องคดี แทน เมื่อ วันที่ 19 สิงหาคม 2531 จำเลย ที่ 1 ได้ ทำสัญญากู้เงิน ไป จาก ธนาคาร โจทก์ สาขา นครสวรรค์ จำนวน 100,000 บาทมี จำเลย ที่ 2 เข้า ทำ สัญญาค้ำประกัน ให้ ไว้ แก่ ธนาคาร โจทก์ และ ยินยอมรับผิด อย่าง ลูกหนี้ ร่วม ทุกประการ จำเลย ที่ 1 ได้ ผ่อนชำระ ให้ แก่ธนาคาร โจทก์ เพียง บางส่วน ก็ ไม่เคย ชำระ ให้ อีก เลย ขอให้ บังคับจำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน หรือ แทน กัน ชำระ ต้นเงิน และ ดอกเบี้ย จำนวน123,362.24 บาท แก่ โจทก์ พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปีของ ต้นเงิน จำนวน 94,696 บาท นับ จาก วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระแก่ โจทก์ เสร็จสิ้น
จำเลย ที่ 1 ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า โจทก์ ไม่ได้ มอบอำนาจ ให้ นาย วินัย เป็น ผู้ ฟ้องคดี แทน หนังสือมอบอำนาจ ไม่สมบูรณ์ เป็น เอกสารปลอมจำเลย ที่ 1 ไม่ได้ กู้เงิน และ ไม่ได้ รับ เงิน จาก ธนาคาร โจทก์ และจำเลย ที่ 2 ก็ ไม่ได้ ทำ สัญญาค้ำประกัน การกู้ยืมเงิน ของ จำเลย ที่ 1โจทก์ ฟ้อง เรียก ดอกเบี้ย ไม่ถูกต้อง ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกันหรือ แทน กัน ชำระ เงิน จำนวน 123,362.24 บาท แก่ โจทก์ พร้อม ดอกเบี้ยใน อัตรา ร้อยละ 15 ต่อ ปี ของ ต้นเงิน จำนวน 94,696 บาท นับแต่ วันฟ้องเป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระ แก่ โจทก์ เสร็จสิ้น
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา โดย ได้รับ อนุญาต เป็น หนังสือ จาก อธิบดีผู้พิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ให้ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ที่ จำเลย ที่ 2 ฎีกา ว่า ตาม หนังสือมอบอำนาจระบุ ให้ ผู้รับมอบอำนาจ มีอำนาจ แต่งตั้ง ทนายความ เท่านั้นผู้รับมอบอำนาจ จึง ไม่มี อำนาจ มอบอำนาจ ช่วง ให้ นาย วินัย โพธิ์ทอง ฟ้องคดี แทน โจทก์ ได้ เห็นว่า ตาม ใบมอบอำนาจ ระบุ ให้ ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจ แต่งตั้ง ทนาย ดำเนินคดี และ แก้ต่าง ทั้ง คดีแพ่ง และ คดีอาญาแทน โจทก์ และ มีอำนาจ มอบอำนาจ ช่วง ให้ บุคคลอื่น ดำเนินการ ดังกล่าว ได้การ มอบอำนาจ ให้ แต่งตั้ง ทนายความ ดำเนินคดี นั้น ย่อม หมายความ รวม ถึงการ ฟ้องคดี หรือ ว่า ต่าง คดี ด้วย เมื่อ ผู้รับมอบอำนาจ มีอำนาจ ที่ จะมอบอำนาจ ช่วง ได้ นาย ประสิทธิ์ ซื่อประสิทธิผล และ นาย เติมพงศ์ เอกประสิทธิกุล ผู้รับมอบอำนาจ ตาม หนังสือมอบอำนาจ จึง มีอำนาจ มอบอำนาจ ช่วง ให้ นาย วินัย โพธิ์ทอง ดำเนินคดี คือ ฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง ใน คดี นี้ แทน โจทก์ ได้ แล้ว ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย ที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลย ที่ 1 จริง ตาม ฟ้อง ส่วน ที่ จำเลย ที่ 2 ฎีกา ว่าศาล จะ รับฟัง หนังสือ สัญญาค้ำประกัน เอกสาร หมาย จ. 5 มิได้ เนื่องจากโจทก์ มิได้ ยื่น บัญชีระบุพยาน ไว้ นั้น เห็นว่า แม้ โจทก์ จะ มิได้ยื่น บัญชีระบุพยาน หนังสือ สัญญาค้ำประกัน ไว้ อันเป็น การ ขัด ต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ก็ ตาม แต่ ถ้า ศาล เห็นว่าเพื่อ ประโยชน์ แห่ง ความยุติธรรม จำเป็น จะ ต้อง สืบพยาน หลักฐาน อัน สำคัญซึ่ง เกี่ยวกับ ประเด็น ข้อสำคัญ ใน คดี โดย ฝ่าฝืน กฎหมาย ดังกล่าว ศาล ก็ มีอำนาจ รับฟัง เอกสาร ดังกล่าว ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) และ เห็นว่า หนังสือ สัญญาค้ำประกัน เป็น พยานหลักฐานอัน สำคัญ ใน ประเด็น แห่ง คดี ศาล จึง มีอำนาจ ที่ จะ รับฟัง เอกสารดังกล่าว ได้
พิพากษายืน

Share