คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชายหญิงอยู่กินกันอย่างสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสบุตรที่เกิดมาก็อยู่ร่วมด้วยจนกระทั่งชายตายจากไป ชายได้อุปการะเลี้ยงดูบุตรฉันบิดากับบุตร บุตรใช้นามสกุลของชายนั้น และเรียกชายนั้นว่าพ่อ ในการสำรวจทะเบียนราษฎร พ.ศ.2499 ก็ปรากฏในทะเบียนนั้นว่า เด็กนั้นเป็นบุตรของชาย ดังนี้ถือว่าชายได้รับรองเด็กนั้นเป็นบุตรโดยชัดแจ้ง เด็กนั้นย่อมเป็นผู้สืบสันดานของชายเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
สิทธิรับจำนองเป็นอสังหาริมทรัพย์
การยกสิทธิรับจำนองให้แก่กัน ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของนายซีจากจำเลย

จำเลยต่อสู้ในข้อสำคัญว่า โจทก์ที่ 1 ไม่ใช่บุตรนายซี จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกมรดกที่ดินที่นายซีรับจำนองไว้จากนายกรองนั้นนายซีได้โอนสิทธิรับจำนองให้จำเลยแล้ว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่านายซีได้รับรองเด็กหญิงเป้าโจทก์ที่ 1 ว่าเป็นบุตรนายซี จึงมีสิทธิรับมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629(1) ส่วนสิทธิรับจำนองที่ดินที่นายซีรับจำนองไว้นั้น นายซีมิได้ทำนิติกรรมต่อเจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 คงมอบแต่ตราจองสำหรับที่ดินที่รับจำนองให้ไว้ ยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย สิทธิในการรับจำนองยังคงเป็นของนายซีอยู่ตามเดิม พิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามรายการที่ฟังว่าเป็นมรดกนายซีให้แก่โจทก์ 2 คน ๆ ละ ส่วนให้จำเลย 1 ส่วน หากแบ่งไม่ตกลงให้ประมูลกัน ถ้าประมูลไม่ตกลงให้ขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน ให้จำเลยไปขอจดทะเบียนสิทธิรับมรดกสัญญาจำนองที่ดินร่วมกับโจทก์ทั้งสอง ถ้าจำเลยไม่ไป ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย

ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษายืน

ข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาวินิจฉัยมีดังนี้.-

ตามข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า นางแผ่วเป็นภริยานายซีโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกันนางแผ่วเกิดบุตรกับนายซี 2 คน คือ โจทก์ทั้งสองนี้ นางแผ่วได้อยู่กินกับนายซีฉันสามีภริยาโจทก์ทั้งสองก็ได้อยู่กับนายซีและนางแผ่วจนกระทั่งนายซีตายจากไป นายซีได้อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ฉันบิดากับบุตร โจทก์ใช้นามสกุลของนายซีและเรียกนายซีว่าเตี่ย ในการสำรวจตรวจสอบทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2499 ก็ปรากฎในทะเบียนว่า โจทก์ทั้งสองและจำเลยเป็นบุตรนายซี ดังนี้เป็นที่ฟังได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุตรนายซีเกิดกับนางแผ่วนายซีได้รับรองโจทก์ทั้งสองเป็นบุตรนายซีโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ให้ถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายซี โจทก์จึงเป็นทายาทของนายซีมีสิทธิรับมรดกของนายซีตามกฎหมาย

ข้อที่จำเลยฎีกาในเรื่องสิทธิรับจำนองว่า นายซีได้ยกให้จำเลยโดยส่งมอบและแจ้งให้ลูกหนี้ทราบแล้ว เป็นอันสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 และจำเลยก็ได้รับโอนสิทธิรับจำนองรายนี้ทางทะเบียนถูกต้องแล้ว สิทธิรับจำนองจึงไม่ใช่มรดกของนายซีนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงเป็นเรื่องนายซียกสิทธิรับจำนองที่ดินให้แก่จำเลย สิทธิรับจำนองนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 100 ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้น การยกสิทธิรับจำนองให้แก่กันจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 คือ ต้องทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การที่นายซียกสิทธิรับจำนองให้แก่จำเลยโดยส่งมอบตราสารการรับจำนองให้แก่จำเลย จึงเป็นการยกให้ที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ถึงแม้จำเลยจะได้ขอโอนรับมรดกสิทธิรับจำนองของนายซีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะขอรับมรดกสิทธิรับจำนองของนายซีร่วมกับจำเลยด้วย

Share