แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ศาลจะบันทึกคำฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แต่เพียงว่า จำเลยมีวีดีโอเทปภาพลามกไว้ในครอบครองเพื่อบริการแลกเปลี่ยนให้แก่ลูกค้าหรือสมาชิกด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่า แต่บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์ได้บรรยายไว้ชัดแจ้งว่า จำเลยมีวิดีโอเทปภาพยนตร์ลามกไว้ในความครอบครองเพื่อบริการให้เช่า แลกเปลี่ยน แก่ลูกค้าหรือสมาชิก ด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่า อันเป็นการบรรยายครบองค์ประกอบความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287(2) แล้ว เมื่อจำเลยรับสารภาพ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์ระบุแต่เพียงว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้จับจำเลยพร้อมทั้งยึดของกลางจำนวน 2 รายการซึ่งได้แนบท้ายฟ้อง และบัญชีของกลางระบุว่าเงิน 570 บาทเป็นของกลางที่พบในสถานที่เกิดเหตุขณะจับกุมเท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่บรรยายให้ชัดแจ้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือได้มาโดยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 เงินของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่พึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีวีดีโอเทปภาพยนตร์ลามกไว้ในครอบครองเพื่อบริการให้เช่า แลกเปลี่ยน แก่ลูกค้าหรือสมาชิกด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่าม้วนละ ๒๐ บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๗ และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำคุก ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์ไม่บรรยายว่า จำเลยประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งลามก รวมทั้งจ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้นตามที่กฎหมายกำหนดแต่ประการใด ฟ้องโจทก์มีเพียงว่าจำเลยมีวัตถุลามกหรือสิ่งของเช่นว่านั้นไว้ในความครอบครองเท่านั้น คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ปรากฏจากบันทึกคำฟ้องตามแบบ ข.๔ ซึ่งศาลเป็นผู้จดว่า จำเลยมีวีดีโอเทปภาพลามกไว้ในครอบครองเพื่อบริการแลกเปลี่ยนให้แก่ลูกค้าหรือสมาชิกด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่าม้วนละ ๒๐ บาท แต่เมื่อพิเคราะห์ดูบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีวาจาของโจทก์ประกอบแล้ว เห็นได้ว่าฟ้องโจทก์บรรยายไว้ชัดแจ้งว่าจำเลยมีวีดีโอเทปภาพยนตร์ลามกแสดงการร่วมเพศระหว่างชายหญิงไว้ในครอบครองเพื่อบริการให้เช่า แลกเปลี่ยน แก่ลูกค้าหรือสมาชิกด้วยการคิดค่าบริการเป็นเงินค่าเช่าม้วนละ ๒๐ บาท อันเป็นการบรรยายองค์ประกอบความผิดตามที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๗(๒) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๖ แล้ว เมื่อจำเลยรับสารภาพ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์ไม่บรรยายว่าเงินของกลาง ๕๗๐ บาทเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือได้มาโดยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ จึงริบไม่ได้นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของโจทก์ระบุแต่เพียงว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้จับกุมตัวจำเลยพร้อมทั้งยึดของกลางจำนวน ๒ รายการซึ่งได้แนบท้ายฟ้อง ส่วนบัญชีของกลางก็ระบุว่าเงิน ๕๗๐ บาทเป็นของกลางที่พบในสถานที่เกิดเหตุขณะจับกุมเท่านั้น โดยปกติเงินสดย่อมเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และบุคคลทั่วไปมีไว้ได้โดยชอบ เมื่อโจทก์ไม่บรรยายให้ชัดแจ้งว่าเงินสด ๕๗๐ บาท เป็นเงินที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ เงินสดของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่พึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓ ที่ศาลล่างทั้งสองริบเงินของกลางมา ศาลฎีกาจึงไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยในข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย และไม่ริบของกลาง