แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องหรือฟ้องแย้ง ผู้ฟ้องจะต้องแสดงว่า ตนมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่หรือมีข้อเท็จจริงที่จะใช้สิทธิทางศาลได้ หากเสนอขึ้นมาโดยกล่าวว่าไม่มีกรณีเช่นว่านั้นและว่าถ้าหากศาลเห็นว่ามี ก็พิพากษาให้ตนชนะ ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีภารจำยอมและฟ้องแย้งว่าหากศาลฟังว่ามี ก็ขอให้ปลดภารจำยอม โดยให้โจทก์ได้ค่าทดแทน ดังนี้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางน้ำ ซึ่งเป็นภารจำยอม
จำเลยให้การว่า ที่ดินของจำเลยไม่ตกอยู่ในภารจำยอมหากฟังว่ามีภารจำยอม ก็ขอฟ้องแย้งขอให้หลุดพ้นจากภารจำยอมโดยให้โจทก์ได้รับค่าทดแทนจากจำเลย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่า มีภารจำยอมจำเลยจะฟ้องแย้งไม่ได้ จึงไม่รับคำฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การเสนอคดีต่อศาลจะโดยคำฟ้องหรือฟ้องแย้งก็ตาม ผู้เสนอจะต้องแสดงว่า ตนมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ หรือมีข้อเท็จจริงที่จะใช้สิทธิทางศาลได้ คดีนี้จำเลยปฏิเสธว่า ไม่มีภารจำยอม ฉะนั้นคำกล่าวอ้างของจำเลย ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องขอให้ศาลพิพากษาให้ที่ดินหลุดจากภารจำยอม จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์