คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3204/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีข้อตกลงอยู่กับจำเลยที่ 1ในลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อโจทก์ยังมิได้ชำระหนี้ 40,000 บาท ที่เหลือแก่จำเลยที่ 1สิทธิเรียกร้องที่จะให้จำเลยที่ 1 โอนตึกและที่ดินพิพาทตามข้อตกลงยังมิอาจบังคับกันได้ โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโฉนด โดยจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์แทน โจทก์ให้จำเลยที่ 1 โอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างคืนโดยใส่ชื่อบุตรซึ่งเกิดจากโจทก์และจำเลย เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2524 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1ได้โอนทรัพย์ดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 โดยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์จะใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกร้องเอาทรัพย์คืน และมีเจตนาจะไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 350

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1 อยู่กินเป็นสามีภรรยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส ได้ซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวโดยลงชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของผู้ถือกรรมสิทธิ์ ต่อมา พ.ศ. 2519 โจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้เลิกอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2523 โจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ตกลงกันว่า โจทก์จะให้เงินจำเลยที่ 1 70,000 บาท โดยจำเลยที่ 1 รับว่าจะโอนตึกแถวและที่ดินพิพาทให้แก่บุตรโจทก์ชำระไปแล้ว 30,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ 40,000 บาท ตกลงว่าจำชำระให้เสร็จภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2523 จนบัดนี้โจทก์ยังมิได้ชำระเงินจำนวนที่เหลือแก่จำเลยที่ 1 เห็นว่า โจทก์มีข้อตกลงกับจำเลยที่ 1 ในลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ยังมิได้ชำระหนี้ 40,000 บาท ที่เหลือแก่จำเลยที่ 1สิทธิเรียกร้องที่จะให้จำเลยที่ 1 โอนตึกและที่ดินพิพาทตามข้อตกลงยังมิอาจบังคับกันได้โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ตามความหมายในบทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 การกระทำของจำเลยขาดองค์ประกอบความผิดคดีโจทก์ไม่มีมูล

พิพากษายืน

Share