คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาทดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไรศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากคดีแพ่งแดงที่ 100/2498 ของศาลจังหวัดปัตตานี ซึ่งพิพากษาให้นายสาเหตุโจทก์ในคดีนี้คืนที่ดินพิพาทให้นายต่วนเลาะจำเลยที่ 2ในคดีนี้ โดยรับเงินที่นายต่วนเลาะขอชำระหนี้จำนวน 1,100 บาท ด้วย นายสาเหะได้ฟ้องเป็นคดีนี้อ้างว่าจำเลยทั้ง 2 ได้กู้ยืมเงินโจทก์ไป 6,000 บาท แล้วได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ เด็ดขาด เป็นการตีใช้หนี้เงินกู้ โจทก์ได้ปลูกมะพร้าวและผลอาสินต่าง ๆ และปลูกเรือน 1 หลัง ลงในที่พิพาทเมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์คืนเรือนนี้ให้จำเลย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยใช้เงินกู้ 6,000 บาท กับใช้ค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น

ศาลชั้นต้นรับฟ้องเฉพาะเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น เรื่องเงินกู้ไม่รับฟ้อง เพราะมูลกรณีเกิดนอกเขตศาล

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ตายก่อนวันยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คงพิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 2 และเห็นว่าในตอนต้นโจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเอาที่ดินตีใช้หนี้เงินกู้ 6,000 บาท แล้วโจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่าจำเลยกลับมาฟ้องโจทก์ในคดีแดงที่ 100/2498 ศาลพิพากษาให้โจทก์คืนที่ดินให้จำเลยในคดีนั้น โดยชี้ขาดว่าที่ดินยังเป็นของจำเลยอยู่โจทก์ได้ทำการปลูกสร้างลงในที่ดินที่ต้องคืนให้จำเลย ทำให้ที่ดินราคาเพิ่มขึ้น จำเลยให้การปฏิเสธ จึงต้องพิจารณากันต่อไปพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องคดีนี้มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share