คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3199/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สินค้าพิพาทเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ที่เรียกว่า พี.โอ.วาย.ซึ่งเป็นเส้นใยที่ไม่มีความยืดหยุ่น ยังใช้ทอผ้าไม่ได้ หากจะนำไปใช้ทอผ้าต้องนำไปผ่านกรรมวิธีตีเกลียว ให้เป็นเส้นด้ายอีกชั้นหนึ่งก่อน สินค้าดังกล่าวจึงมิใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ในการทอผ้าตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า(ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า(ฉบับที่ 58) พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ในบัญชีที่ 2 หมวด 2(9)โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตามมาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 การขอคืนเงินค่าภาษีไม่มีกฎหมายบังคับให้โจทก์ยื่นคำร้องพร้อมกับเอกสารประกอบคำร้องว่าคำร้องเป็นความจริง ดังนั้น การที่จำเลยไม่คืนเงินค่าภาษีที่โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เจ้าหน้าที่ของจำเลยได้เก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลจากสินค้าของโจทก์ 2 ชนิด คือ ชนิดเส้นใยยาวที่มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า พรี โอเรียนเต็ด ยาร์น หรือ พี.โอ.วายและชนิดด้ายยืดหยุ่น มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า ฟูลลี่ โอเรียนเต็ดยาร์น หรือ เอฟ.โอ.วาย สำหรับเส้นใยยาวนี้เส้นใยยังมีการยืดหดตัวมาย้อมสีไม่ได้มีความเหนียวไม่พอ นำไปใช้ทอผ้าไม่ได้ หากจะนำไปใช้ทอผ้าต้องนำไปทำกรรมวิธีอีกขั้นหนึ่งโดยยืดให้เต็มที่ ตีเกลียวและอบให้เกลียวคงทนเป็นเส้นด้าย จึงจะเป็นเส้นด้ายยืดหยุ่นหรือเอฟ.โอ.วาย และนำไปทอผ้าได้ โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลสำหรับเส้นใยยาวเพราะมิใช่เส้นด้ายสำหรับใช้ทอผ้าตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 บัญชีที่ 2หมวด 2(9) แต่เป็นสินค้าตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก) ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผลิตในราชอาณาจักรและมิได้ระบุในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจึงเป็นสินค้าที่ไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาตรา 5(8) โจทก์เสียภาษีตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2519 ถึง พ.ศ. 2528เป็นเงิน 52,530,934.13 บาท ซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิเรียกเก็บ โจทก์ขอคืนภาษีดังกล่าวจากจำเลย แต่จำเลยเพิกเฉยจึงตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ ขอให้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า สินค้าของโจทก์เป็นด้วยสำหรับใช้ทอผ้ากล่าวคือเป็นด้ายที่มีโครงสร้างเป็นเส้นเรียบตามปกติ ยังมิได้มีการนำไปปรับปรุงโครงสร้างให้มีความหงิกงอ ด้ายดังกล่าวเป็นด้ายชนิด เอฟ.โอ.วาย ซึ่งเป็นด้ายที่ใช้ทอผ้าได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้ายชนิด พี.โอ.วาย หรือ เอฟ.โอ.วาย ก็เป็นเส้นด้ายสำหรับใช้ทอผ้าซึ่งโจทก์ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว คดีขาดอายุความ การที่โจทก์ขอคืนภาษีนั้น จำเลยยังมิได้โต้แย้งสิทธิโจทก์แต่อย่างใด เพราะโจทก์มิได้ยื่นแบบแสดงรายการหรือคำร้องขอคืนเงินภาษีแต่อย่างใดขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกล่าวพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน 49,188,109.52 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า สินค้าพิพาทเป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่เรียกว่า พี.โอ.วาย เป็นเส้นใยที่ไม่มีความยืดหยุ่น นำไปทอผ้าไม่ได้ หากจะนำไปใช้ทอผ้าต้องผ่านกรรมวิธีตีเกลียวให้เป็นเส้นด้ายอีกชั้นหนึ่ง แล้ววินิจฉัยว่า เมื่อสินค้าของโจทก์เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่เรียกว่า พี.โอ.วาย ใช้ทอผ้าไม่ได้ จึงมิใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ในการทอผ้า ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54)พ.ศ. 2517 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราภาษีการค้า (ฉบับที่ 58) พ.ศ. 2518มาตรา 4 ในบัญชีที่ 2 หมวด 2(9) โจทก์จึงได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 มาตรา 5(8)ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินค่าภาษีตามระเบียบกรมสรรพากร กล่าวคือ มิได้ยื่นคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องว่า คำร้องเป็นความจริง จำเลยจึงไม่มีโอกาสพิจารณาคำร้องของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิโจทก์นั้น เห็นว่า ไม่มีกฎหมายข้อบังคับให้โจทก์ยื่นคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องว่าเป็นความจริงดังที่จำเลยอุทธรณ์ และการที่จำเลยไม่คืนเงินภาษีที่โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน.

Share