แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอให้ใช้ค่าบำเหน็จนำจับตาม พรบ อากรค่าน้ำนั้นถ้ามีคำมั่นสัญญาของเจ้าพนักงานที่จะให้ค่านำจับ ศาลก็บังคับให้จำเลยใช้ค่านำจับได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พรบ อากรค่าน้ำ ร.ศ. ๑๒๐ ม. ๑๙ ๒๐ ประกาศเสนาบดีกระทรวงการคลังลงวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ โดยกล่าวว่า จำเลยใช้มองซึ่งเป็นเครื่องชะนิดที่ต้องห้ามจับปลาในที่หวงห้าม และขอให้ จำเลยใช้เงินค่าบำเหน็จนำจับให้แก่ผู้แจ้งความ
ศาลชั้นต้นตัดสินว่าจำเลยมีความผิดตามบท กฎหมายที่ โจทก์อ้าง ปรับจำเลยเป็นเงิน ๘ บาท กับให้ จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับ อีก ๓๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์ในเรื่องค่าสินบนนำจับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๒๐ แห่ง พรบ อากรค่าน้ำ ศก ๑๒๐ ระบุว่า”เงินหลวงที่เจ้าพนักงานต้องให้เป็นบำเหน็จแก่ผู้นำจับ “ในคดีนี้ได้มีคำมั่นสัญญา ของเจ้าพนักงานให้ค่านำจับ ย่อมเรียกได้ว่าเจ้าพนักงานจักต้องจ่ายเงินบำเหน็จนำจับตามมาตรา ๒๐ นั้นแล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์