คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511มาตรา18วางหลักเกณฑ์ไว้ว่าก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้า อะลูมิเนียมหุ้มด้วยฉนวนโพลิไวนิลคลอไรด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (ฉบับที่3)พ.ศ.2526ทางราชการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างเงื่อนไขดังกล่าวไม่ใช่ข้อความที่ต้องกล่าวในฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158ดังนั้นแม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าเงื่อนไขในการตราพระราชกฤษฎีกาได้ปฏิบัติครบถ้วนแล้วหรือไม่ย่อมไม่ทำให้เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ความผิดฐานทำสายไฟฟ้าและความผิดฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายนั้นพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดและกำหนดโทษผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและผู้มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างมาตรากันและฟ้องโจทก์ได้แยกการกระทำความผิดของจำเลยเป็นข้อๆขอให้ลงโทษจำเลยแต่ละข้อเป็นกระทงความผิดไปกรณีจึงฟังได้ว่าความผิดฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายเป็นความผิดหลายกรรมเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพจึงลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมายศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิดได้และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันทำสายไฟฟ้าอะลูมิเนียมเป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสองไม่ได้รับใบอนุญาต โดยโจทก์ก็บรรยายฟ้องแยกเป็นสองข้อ และข้อที่ 3 จำเลยทั้งสองรวมกันมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสายไฟฟ้าดังกล่าว โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสายไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการให้ทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 มาตรา 20, 36, 46, 48,55 พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 9พระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าอะลูมิเนียมหุ้มด้วยฉนวนโพลิไวนิลคลอไรด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2526 มาตรา 1, 2, 3ประกอบกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 692 (พ.ศ. 2526) จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้องจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานทำสายไฟฟ้าไม่ได้รับอนุญาต จำเลยกระทำผิด2 กรรม ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 กรรมละ 5,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 2 กรรมละ 3เดือน ฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด15 วัน รวมปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 12,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 6 เดือน 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าอะลูมิเนียมหุ้มด้วยฉนวนโพลิไวนิลคลอไรด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526 ได้มีการประกาศไว้อย่างถูกต้องตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้นั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรา 18 วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า ก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวข้างต้น ทางราชการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างเงื่อนไขดังกล่าวไม่ใช่เป็นข้อความที่ต้องกล่าวในฟ้องดังที่บัญญัตไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ดังนั้นแม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าเงื่อนไขในการตราพระราชกฤษฎีกาได้ปฏิบัติครบถ้วนแล้วหรือไม่ ย่อมไม่ทำให้เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น สำหรับปัญหาที่ว่าการกระทำของจำเลยฐานทำสายไฟฟ้ากับฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดกรรมเดียวหรือสองกรรมและการบรรยายฟ้องประกอบคำรับสารภาพของจำเลยจะลงโทษจำเลยได้หรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานทำสายไฟฟ้าและความผิดฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่าย พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดและกำหนดโทษผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและผู้มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างมาตรากันและฟ้องโจทก์ได้แยกการกระทำความผิดของจำเลยเป็นข้อ ๆ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ละข้อเป็นกระทงความผิดไปกรณีจึงฟังได้ว่าความผิดฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายเป็นความผิดหลายกรรมเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพจึงลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นคดีนี้คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ให้เหมาะสมแก่ความผิดได้ และคดีนี้ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 2ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสจำเลยที่ 2 กลับตัวไปประกอบอาชีพสุจริตอีกครั้งหนึ่ง พิพากษาแก้เป็นว่า นอกจากโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์กำหนดไว้แล้วให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 2 ฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายโดยลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่งแล้ว ปรับฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงละ 10,000 บาท และฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่าย 1,000บาท รวมปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 21,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share