แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพนักงานจดบัญชีและรับเงิน-ค่าภาษีและค่าธรรมเนียมแล้วนำเงินส่งสมุหบัญชี เมื่อจดบัญชีไว้ว่ามีผู้นำเงินมาเสียแต่ไม่ได้นำเงินส่งสมุหบัญชีหลายราย ถึงแม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พะยานรู้เห็นว่าจำเลยได้รับและยักยอกไว้ ก็สันนิษฐานได้ว่า จำเลยยักยอกซึ่งมีความผิดจนกว่าจำเลยจะนำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นเสมียนอยู่ในกองยานพาหนะ มีหน้าที่รับเงินค่าภาษีและค่าธรรมเนียมพร้อมทั้งการลงบัญชีและนำเงินเหล่านั้นส่งสมุหบัญชี โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกเงิน ๗ ราย โจทก์ไม่มีพะยานมายืนยันว่า มีผู้นำมาเสียแลไม่มีพะยานมายืนยันว่าจำเลยรับและยักยอกเอาไว้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๑๓๑
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โดยพฤตติการณ์ตามหน้าที่ของจำเลย ๆ เป็นผู้รับเงิน ลงบัญชี และส่งเงินเหล่านี้ต่อสมุหบัญชี เมื่อปรากฎตามบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ว่าได้มีผู้นำเงินมาเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่อเจ้าหน้าที่จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่รับเงินเหล่านั้น และเงินเหล่านั้นขาดหายไป ความสันนิษฐานเบื้องต้นต้องฟังว่า จำเลยยักยอกเอาไว้จนกว่าจำเลยพิศูจน์ได้ว่าจำเลยไม่ได้รับและไม่มีใครนำมาเสีย เมื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงอื่นประกอบอีกแล้ว ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น