คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยปลูกบ้านลงในที่ริมตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน มิได้ปลูกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิทำเขื่อนกั้นน้ำในที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านได้ แต่สามารถทำเขื่อนภายในแนวเขตที่ดินของโจทก์ ทั้งโจทก์ยังมีทางอื่นที่จะใช้ลงสู่คลองได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตรงที่จำเลยปลูกบ้าน โจทก์ไม่ได้เสียหายเป็นพิเศษ ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนขนย้ายบ้านไม่มีเลขที่ริมคลองลาดบัวขาวออกไปจากที่ชายตลิ่งซึ่งอยู่ติดกับหน้าที่ดินโฉนดเลขที่ 1189 ของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ชายตลิ่งดังกล่าวอีกต่อไป จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้โดยไม่มีข้อโต้แย้งและคู่ความรับกันว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1189 แขวงมีนบุรีเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 76 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา ด้านทิศตะวันตกติดลำคลองลาดบัวขาว ยาวประมาณ 40 เส้น จำเลยปลูกบ้านพิพาทกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 4 เมตร อยู่บนที่ชายตลิ่งด้านนี้อันเป็นที่สาธารณะหน้าที่ดินโจทก์ โจทก์ปลูกบ้านจัดสรรขายให้ผู้อื่น คดีมีปัญหาสู่ศาลฎีกาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยให้รื้อถอนบ้านพิพาทออกไปให้พ้นหน้าที่ดินโจทก์ได้หรือไม่

พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงโจทก์จำเลยรับกันว่า จำเลยปลูกบ้านลงในที่ริมตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน มิได้ปลูกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์แต่อย่างใด ฉะนั้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิไปทำเขื่อนกั้นน้ำในที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านได้ แต่โจทก์ก็สามารถทำเขื่อนภายในแนวเขตที่ดินของโจทก์ทั้งโจทก์ยังมีทางอื่นที่จะใช้ลงสู่คลองลาดบัวขาวได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตรงที่จำเลยปลูกบ้าน เห็นว่าโจทก์ไม่ได้เสียหายเป็นพิเศษ จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ฎีกาแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความรวม1,000 บาท

Share