คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่จะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิดนั้นจะต้องเป็นการตกลงผ่อนเวลาแน่นอนและมีผลว่าในระหว่างผ่อนเวลานั้นเจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องหรือฟ้องร้องไม่ได้กรณีที่เพียงแต่หนี้ถึงกำหนดชำระแล้วเจ้าหนี้ไม่ได้เรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระ ไม่มีการตกลงผ่อนเวลาแก่ลูกหนี้ เจ้าหนี้คงยังมีสิทธิเรียกร้องเมื่อใดก็ได้ ย่อมมิใช่การผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ผู้ค้ำประกันจึงหาหลุดพ้นจากความรับผิดไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นทายาทผู้รับมรดกตามกฎหมายของนางสมพร ตั้งเลื่อมรุ่งผู้วายชนม์ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ 1 ครั้นเมื่อครบกำหนดสัญญาปรากฏว่า จำเลยที่ 1เบิกเงินเกินบัญชีไปเป็นจำนวน 54,913.94 บาท ต่อมาโจทก์เพิ่งทราบว่านางสมพรถึงแก่กรรม จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนางสมพรต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย ขอให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชำระเงินจำนวน 69,455.07 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 63,409.46 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 4 และที่ 5 ให้การว่า เมื่อสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีครบกำหนดแล้ว โจทก์ได้ขยายระยะเวลาออกไปโดยไม่แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ทั้งจำเลยที่ 1 ไปเลิกกิจการไปแล้ว ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดตามฟ้องขอให้พิพากษายกฟ้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ถึงที่ 6 ในฐานะทายาทร่วมกันชำระเงิน 62,228.05 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2526 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 4 และที่ 5 อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยประเด็นตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 4 และที่ 5 ที่ว่า โจทก์ผ่อนระยะเวลาให้แก่จำเลยที่ 1 ทำให้นางสมพรผู้ค้ำประกันหลุดพ้นอันทำให้จำเลยที่ 4 และที่ 5 หลุดพ้นความรับผิดหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปเลยทีเดียวซึ่งในข้อนี้จำเลยที่ 4 และที่ 5 อ้างว่าสัญญาครบกำหนดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2521 โจทก์เพิกเฉยปล่อยระยะเวลาให้ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปี มิได้ทวงถามให้จำเลยที่ 1 ลูกหนี้และนางสมพรผู้ค้ำประกันชำระหนี้ เป็นการขยายระยเวลาให้แก่ลูกหนี้โดยผู้ค้ำประกันมิได้ยินยอมด้วย ผู้ค้ำประกันจึงต้องหลุดพ้นความรับผิด ศาลฎีกาเห็นว่า การผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่จะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 นั้น จะต้องตกลงผ่อนเวลาแน่นอนและมีผลว่าในระหว่างผ่อนเวลานั้น เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องหรือฟ้องร้องไม่ได้ กรณีนี้เพียงแต่หนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว เจ้าหนี้ไม่ได้เรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระ ไม่มีการตกลงผ่อนเวลาแก่ลูกหนี้แต่อย่างไร เจ้าหนี้คงยังมีสิทธิเรียกร้องเมื่อใดก็ได้ จึงมิใช่การผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ นางสมพรผู้ค้ำประกันหาหลุดพ้นความรับผิดไม่จำเลยที่ 4 และที่ 5 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share