แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การว่า สัญญากู้ที่โจทก์ฟ้องนั้นเป็นสัญญาปลอมหลังวันชี้สองสถานจำเลยขอเพิ่มเติมคำให้การเดิม แสดงความเป็นมาของสัญญาปลอมนั้น ความเป็นมาของสัญญาปลอมนั้นเป็นอย่างไร จำเลยย่อมทราบได้ดีก่อนวันชี้สองสถาน เมื่อจำเลยยื่นภายหลังวันชี้สองสถานและคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน คำร้อง ของจำเลยจึงต้องยกเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180(2)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 2 ฉบับ
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินฉบับหนึ่ง แต่อีกฉบับหนึ่งโจทก์ทำปลอมขึ้น
หลังวันชี้สองสถานจำเลยขอเพิ่มเติมคำให้การ ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเรียงคำให้การเดิมของตนเอง แล้วต่อมาจึงตั้งทนาย จำเลยจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การได้ก่อนวันชี้สองสถาน จึงชอบที่จะอนุญาตให้จำเลยเพิ่มเติมคำให้การได้พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การเดิมของจำเลยปฏิเสธสัญญากู้ว่าเป็นสัญญาปลอมในวันชี้สองสถานจำเลยรับว่าลายมือชื่อในช่องผู้กู้เป็นลายมือชื่อจำเลย แต่ได้ลงไว้โดยไม่ได้กรอกข้อความ โจทก์กรอกเอาเอง ที่จำเลยขอเพิ่มเติมคำให้การว่า โจทก์ลวงให้จำเลยเซ็นชื่อในหนังสือสัญญากู้ แล้วโจทก์กับพวกสมคบกันปลอมหนังสือสัญญากู้ขึ้น โดยกรอกข้อความต่าง ๆ ลงโดยจำเลยไม่มีส่วนรู้เรื่องในการกู้ยืมนั้น เป็นการขยายคำให้การที่ต่อสู้ไว้เดิมที่ว่าเป็นสัญญาปลอมนั้น มีความเป็นมาอย่างไร หาขัดแย้งกับคำให้การเดิมไม่ แต่โดยที่จำเลยได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังจากวันชี้สองสถานแล้ว จึงมีข้อพึงพิเคราะห์ต่อไปว่าจำเลยอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การนี้ได้ก่อนวันชี้สองสถานหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความที่จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติม เป็นข้อความที่เห็นได้ในตัวว่าจำเลยทราบอยู่ดีตั้งแต่วันยื่นคำให้การ ตลอดจนกระทั่งถึงวันชี้สองสถานว่า สัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอมโดยมีความเป็นมาอย่างไร จำเลยจึงได้ตั้งประเด็นไว้ในคำให้การและตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันชี้สองสถานว่าเป็นสัญญาปลอม ข้อความที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมหาใช่ข้อความที่จำเลยเพิ่งทราบภายหลังวันชี้สองสถานไม่ เมื่อจำเลยยื่นภายหลังวันชี้สองสถาน และคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน คำร้องของจำเลยจึงต้องยกเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180(2) พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์