แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 272 (1) เป็นความผิดอันยอมความได้ ซึ่งผู้เสียหายจะต้องร้องทุกข์หรือฟ้องคดีเสียภายในกำหนดสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความตาม ป.อ. มาตรา 96 แต่คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่กระทำการตามฟ้องอันเป็นการฝ่าฝืน ป.อ. มาตรา 272 (1) เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2553 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้อันเป็นการบรรยายฟ้องว่าการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสี่ยังคงกระทำสืบเนื่องตลอดมาจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 อันเป็นวันที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายยื่นฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดในคดีนี้ ดังนั้นคดีอาญาในความผิดข้อหาดังกล่าวย่อมไม่ขาดอายุความ
อุทธรณ์โจทก์เป็นการอุทธรณ์ในคดีส่วนอาญาจึงไม่มีค่าธรรมเนียม แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาด้วย จึงให้คืนค่าขึ้นศาลดังกล่าวแก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ละเว้นหรือระงับการใช้ชื่อ BTS อ่านว่า บีทีเอส ของโจทก์เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชื่อทางการค้าของจำเลยที่ 1 หรือใช้เป็นชื่อบริษัทจำเลยที่ 1 หรือตรายางของบริษัทจำเลยที่ 1 รวมทั้งห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ใช้คำว่า BTS กับสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ แผ่นพับ แผ่นโฆษณา และสื่อโฆษณาใด ๆ ทุกชนิด เพื่อประโยชน์ทางการค้าของจำเลยทั้งสี่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และมาตรา 18 และพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 14 ให้จำเลยทั้งสี่ยกเลิกหรือระงับการโฆษณาในสื่อต่าง ๆ ทุกประเภทว่า ซื้อคอนโดมิเนียมของจำเลยที่ 1 แล้วสามารถขึ้นรถไฟฟ้า BTS ฟรี 2 ปี ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 43,337,620 บาท กับพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1)
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ให้การปฏิเสธขอให้ยกฟ้องทั้งคดีส่วนแพ่งและส่วนอาญา
จำเลยที่ 4 ให้การปฏิเสธขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่าโจทก์ส่งจดหมายฉบับลงวันที่ 27 มกราคม 2553 แจ้งให้จำเลยทั้งสี่ทราบเรื่องการกระทำความผิดอาญาตามฟ้องอันเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) แสดงว่าโจทก์รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำความผิดตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แต่กลับนำคดีนี้มาฟ้องเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553 จึงเกินกว่า 3 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 พิพากษายกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ให้คงรับคำฟ้องในคดีส่วนแพ่งเพื่อพิจารณาต่อไปแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาท ต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งว่า เนื่องจากโจทก์ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนอาญาอันเกี่ยวพันกับคดีในส่วนแพ่ง ซึ่งศาลจะต้องรับฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาให้เป็นที่ยุติเสียก่อน จึงเห็นควรให้จำหน่ายคดีในส่วนแพ่งออกเสียจากสารบบความ เมื่อคดีอาญาถึงที่สุดให้โจทก์แถลงเพื่อหยิบคดีในส่วนแพ่งขึ้นพิจารณาต่อไป
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่า คดีโจทก์ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) ขาดอายุความแล้วหรือไม่ เห็นว่า แม้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) เป็นความผิดอันยอมความได้ซึ่งผู้เสียหายจะต้องร้องทุกข์หรือฟ้องคดีเสียภายในกำหนดสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 แต่คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่กระทำการตามฟ้องอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2553 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้อันเป็นการบรรยายฟ้องว่าการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสี่ยังคงกระทำสืบเนื่องตลอดมาจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 อันเป็นวันที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายยื่นฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดในคดีนี้ ดังนั้นคดีอาญาในความผิดข้อหาดังกล่าวย่อมไม่ขาดอายุความ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) เพราะเหตุว่าคดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง อุทธรณ์โจทก์เป็นการอุทธรณ์ในคดีส่วนอาญา จึงไม่มีค่าธรรมเนียมแต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาด้วย 200 บาท จึงให้คืนค่าขึ้นศาลดังกล่าวแก่โจทก์
พิพากษากลับ ให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคดีนี้ทั้งคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่งต่อไป คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์