แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้าไปหาเจ้าทุกแล้วพูดขอเงินเจ้าทุกข์ตอบว่าไม่มี จำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไป เจ้าทุกข์หลบเสียทันแล้วรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วย มีตำรวจมาช่วยจำเลยจึงถูกจับถือว่าจำเลยให้ศา-ตราวุธขู่ให้เจ้าทุกข์ส่งเงินให้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพเมื่อโจทก์บรรยายในข้อหาฐานนี้ด้วยก็ลงโทษจำเลยได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้มีดซุยปลายแหลมเป็นศาตราวุธเข้ากระทำการขู่เข็ญจะทำร้ายนายคำศรีเพื่อบังคับและขู่เข็ญขืนใจให้นายคำศรีสัญญาว่าจะส่งเงินให้แก่จำเลยโดยที่จำเลยมิได้มีอำนาจทำได้โดยชอบด้วย ก.ม. มีเหตุพ้นวิสัยป้องกันและขัดขวางไว้ กล่าวคือนายคำศรีกอดปล้ำจำเลยไว้และร้องให้คนช่วยจับจำเลยทันท่วงทีจำเลยจึงมีการกรรโชกไม่สำเร็จ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๖๘,๓๐๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทำความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกรรโชกและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพตามฟ้องอยู่แล้ว พิพากษาให้จำคุกจำเลย ๑ ปีตาม ม.๒๖๘
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้วได้ความว่าค่ำวันเกิดเหตุนายคำศรีนอนเล่นอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องแถวซึ่งจดถนนจำเลยเข้าไปหาแล้วพูดขอเงิน นายคำศรีตอบว่าไม่มีจำเลยชักมีดปลายแหลมออกจากเอวเงื้อง่าทำท่าว่าจะแทงแล้วพูดว่าให้หรือไม่ให้แล้วจำเลยก็แทงไป นายคำศรีหลบทัน นายคำศรีรวบแขนจำเลยกอดตัวไว้เรียกให้คนช่วย พลตำรวจนายหนึ่งวิ่งมาช่วยจำเลยถูกจับในที่นั้น จำเลยนำสืบว่าจำเลยนำมีดหลายเล่มไปยื่นขอขายให้นายคำศรี การนำสืบของจำเลยไม่น่าเชื่อ ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยให้ศาตราวุธขู่นายคำศรีให้นายคำศรีส่งเงิน ฎีกาจำเลยเถียงข้อเท็จจริงฟังไม่ขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นการทำให้นายคำศรีเสื่อมเสียอิสสระภาพ ข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพก็มีอยู่ในฟ้องและไม่ใช่คดีส่วนตัวจะไม่ลงโทษจำเลยหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว
พิพากษายืน.