แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยทำสัญญาปราณีประนอมกันต่อศาลว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าโรงสีต่อไปอีกมีกำหนดไม่เกิน 3 ปี ดังนี้ สัญญาปราณีประนอมนั้นย่อมเป็นหลักฐานแห่งสัญญาเช่าซึ่งโจทก์ย่อมนำมาฟ้องร้องขอให้บังคับคดีได้
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์จำเลยทำสัญญายอมความกันไว้ต่อศาลว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าโรงสีไฟของโจทก์ต่อไปอีกนับแต่เดือนตุลาคม ๒๔๗๙ จนถึงเดือนมิถุนายน ๒๔๘๑ ค่าเช่าเดือนละ ๒๕๐ บาท บัดนี้จำเลยไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ค่าเช่าค้าง ๒๒๕๐ บาท จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเช่าเพราะไม่มีสัญญาเช่า สัญญายอมความไม่เป็นสัญญาเช่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่าประมวลแพ่ง ฯ ม.๕๓๘ บัญญัติไว้ชัดเจนว่าการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน ๓ ปี ผู้ให้เช่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้เมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญเห็นว่าสัญญายอมในคดีนี้เป็นหลักฐานชนิดนั้นโดยไม่มีปัญหา เมื่อจำเลยได้เช่าโรงสีมีกำหนดเวลาไม่เกิน ๓ ปี จึงไม่จำต้องทำสัญญาเช่าเป็นนิติกรรมอีกต่างหากและไม่จำต้องจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน จึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าให้โจทก์ตามฟ้อง