คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3108/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยขีดฆ่าและลบลายมือชื่อของจำเลยในเช็คพิพาททั้งห้าฉบับเพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังในเช็คแต่ละฉบับนั้น แม้จะเป็นการกระทำในเวลาใกล้เคียงและต่อเนื่องกันแต่ก็เห็นได้ชัด ว่าจำเลยจะทำเพียงฉบับเดียวหรือบางฉบับก็ได้ สุดแต่เจตนาของจำเลย เมื่อจำเลยกระทำต่อเป็นทั้งห้าฉบับจึงเป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 264, 265,266(4), 90 และ 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266 ให้ลงโทษจำคุกสำนวนละ 2 ปี รวมสองสำนวนให้จำคุก 4 ปีคำขออื่นให้ยก
โจทก์ทั้งสามและจำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิด 5 กรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมจำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกาเพียงข้อเดียวว่า การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารของจำเลยตามมาตรา 266 แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น เป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน หรือเป็นความผิดแต่เพียงกรรมเดียว ในการวินิจฉัยดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า ในวันเกิดเหตุจำเลยได้ขีดฆ่าลายมือชื่อของจำเลยด้านหลังเช็คพิพาท 2 ฉบับ ต่อหน้าโจทก์ที่ 2โจทก์ที่ 2 ร้องโวยวายขึ้น ในขณะที่โจทก์ที่ 2 ร้องโวยวายนั้นจำเลยก็ได้ใช้หมึกลบลายมือชื่อของจำเลยด้านหลังเช็คพิพาทอีก 3 ฉบับด้วย ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยขีดฆ่าและลบลายมือชื่อของจำเลยในเช็คพิพาททั้งห้าฉบับเพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้สลักหลังในเช็คแต่ละฉบับ แม้จะเป็นการกระทำในเวลาใกล้เคียงและต่อเนื่องกัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าจำเลยจะทำเพียงฉบับเดียวหรือบางฉบับก็ได้ สุดแต่เจตนาของจำเลย เมื่อจำเลยกระทำต่อเช็คทั้งห้าฉบับ จึงเป็นความผิด 5 กรรมต่างกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยมา 5 กระทงนั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share