แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางมีจำนวนมากซึ่งตามสภาพและลักษณะแห่งความผิดนับเป็นมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติอีกทั้งสามารถทำลายทรัพยากรมนุษย์บั่นทอนความสงบสุขของสังคมและเศรษฐกิจของชาติสุดคณานับประกอบกับจำเลยทั้งสองมิได้สำนึกถึงการกระทำความผิดของตนกลับนำสืบปฎิเสธความผิดเสียอีกจึงสมควรลงโทษรุนแรงสาสมแก่ความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2538 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 จำนวน 33,800 เม็ด น้ำหนักสุทธิ 2,349 กรัม คำนวณเป็นปริมาณเมทแอมเฟตามีนบริสุทธิ์หนัก 54 กรัม และมีอีเฟดรีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทเดียวกัน จำนวน 124,200 เม็ดน้ำหนักสุทธิ 8,635 กรัม คำนวณเป็นปริมาณอีเฟดรีนบริสุทธิ์หนัก2,042.7 กรัม อันเป็นจำนวนเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อขายดังกล่าวและยึดรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน น-5077 สมุทรสงคราม ที่จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดดังกล่าวและยึดธนบัตรจำนวน 19,000 บาท ซึ่งจำเลยทั้งสองได้มาโดยการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ, 6289, 106, 106 ทวิ, 116 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 7, 30, 31ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข และริบธนบัตรจำนวน 19,000 บาทของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,89, 62 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกคือมาตรา 62 วรรคหนึ่งประกอบด้วยมาตรา 106 ทวิ) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง (ที่ถูกคือมาตรา 13 ทวิวรรคหนึ่ง ประกอบด้วยมาตรา 89) ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 20 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ แม้นำสืบพยานปฎิเสธความผิด แต่ก็เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 15 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและริบธนบัตรจำนวน 19,000 บาท ของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา ขอให้ ลงโทษ สถาน เบา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า วัตถุของกลางมีจำนวนมาก ซึ่งตามสภาพและลักษณะแห่งความผิดนับเป็นมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติอีกทั้งสามารถทำลายทรัพยากรมนุษย์ บั่นทอนความสงบสุขของสังคมและเศรษฐกิจของชาติสุดคณานับ จึงสมควรลงโทษรุนแรงสาสมแก่ความผิดประกอบกับจำเลยทั้งสองมิได้สำนึกถึงการกระทำความผิดของตนกลับนำสืบปฎิเสธความผิดเสียอีก ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจวางโทษและลดโทษให้แก่จำเลยทั้งสอง นับว่าเหมาะสมต่อพฤติการณ์แห่งรูปคดี ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน