แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์นำยึดรถยนต์ก่อนคำพิพากษา เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแล้ว โจทก์ไม่บังคับคดี การยึดทรัพย์สิ้นผล ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องต่อไป
ย่อยาว
ระหว่างพิจารณาโจทก์นำยึดรถยนต์ 3 คัน ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่ารถยนต์ 3 คันนี้เป็นของผู้ร้อง เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแล้ว โจทก์เพิกเฉยไม่บังคับคดี ศาลชั้นต้นเห็นว่าการยึดทรัพย์ชั่วคราวสิ้นผลไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) ที่ผู้ร้องขอสืบพยานว่ารถเป็นของผู้ร้องจึงไม่มีข้อโต้แย้งที่จะพิจารณาต่อไป ให้งดสืบพยานและพิพากษายกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ผู้ร้องฎีกาว่า กรณีของผู้ร้องเป็นการร้องขัดทรัพย์ตามความในมาตรา 288 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งร้องขอต่อศาลในชั้นยึดทรัพย์ก่อนพิพากษา ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาชี้ขาดตัดสินในประเด็นพิพาทแห่งคดีว่ารถยนต์พิพาทเป็นของผู้ร้องหรือจำเลยการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกกรณีรถยนต์พิพาทพ้นจากคำสั่งยึดตามมาตรา 260(2) เป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 และมาตรา 288 วรรคสอง ขอให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีของผู้ร้องใหม่
คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์หรือเพิกถอนการยึดรถยนต์พิพาทก่อนสืบพยานผู้ร้องแถลงว่าวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาที่โจทก์ขอให้ยึดรถยนต์พิพาทไว้ 3 คัน สิ้นผลไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 260(2) เพราะเมื่อศาลพิพากษาคดีนั้นแล้วโจทก์ไม่ดำเนินการบังคับคดีตามนัยกฎหมายดังกล่าว แต่ผู้ร้องจะขอสืบพยานว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์พิพาทเพราะโจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งงดการไต่สวน แล้ววินิจฉัยว่าเมื่อคำสั่งยึดรถยนต์พิพาทไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษายกเลิกไป ก็ไม่จำเป็นต้องสืบพยานว่ารถยนต์พิพาทเป็นของผู้ร้องหรือจำเลย เพราะเมื่อไม่มีการยึดรถยนต์พิพาทแล้ว ข้อโต้แย้งของผู้ร้องก็เป็นอันหมดไป ให้ยกคำร้องศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องจึงฎีกาขึ้นมาดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาเห็นว่าในการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่เจ้าพนังานบังคับคดีได้ยึดไว้นั้น ประเด็นข้อสำคัญมีว่าผู้ร้องมีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ยึดไว้นั้นหรือไม่ เมื่อผู้ร้องแถลงว่าการยึดรถยนต์พิพาทสิ้นผลไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) และศาลชั้นต้นก็เห็นด้วยกับผู้ร้อง การที่ผู้ร้องจะขอสืบพยานเพิ่มก็หาเป็นประโยชน์อย่างใดไม่ เพราะคำสั่งให้ยึดรถยนต์พิพาทไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษานั้นเป็นอันยกเลิกไปเป็นผลให้ต้องปล่อยรถยนต์พิพาทแล้ว ไม่มีเหตุที่จะให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองแล้วให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามที่ผู้ร้องฎีกา”
พิพากษายืน