คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกัน แต่ได้ความว่าจำเลยฝ่ายหนึ่งเข้าไปทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายที่ถูกทำร้ายได้ทำการป้องกันโดยต่อยเพียงหนึ่งที และอีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีไปหนึ่งที ดังนี้ไม่ใช่สมัครใจวิวาท ต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ถึงบาดเจ็บขอให้ลงโทษ
ทางพิจารณาได้ความว่านายสำราญข้างเถื่อนจำเลยฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงกับจำเลยอีก ๒ คนเรื่องจอดเรือ แล้วเข้าไปต่อยถูกนายสำราญเดชกุญชรหนึ่งที นายสำราญเดชกุญชรก็ต่อยตอบไปหนึ่งที นายสำราญช้างเถื่อนผละออกตรงไปที่นายใฮ้จำเลยๆ แก้เชื่อกผูกไม้ข้างเรือออกตีนายสำราญช้างเถื่อนไปหนึ่งทีแล้วนายสำราญเดชกุญชรผลักนายสำราญช้างเถื่อนตกน้ำไป ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทุกคนผิดฐานวิวาทต่อสู้กันในที่สาธารณสถาน
นายสำราญช้างเถื่อนจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากรณีไม่ใช่เป็นเรื่องวิวาทต่อสู้กัน ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้อง ต้องวินิจฉัยให้ยกฟ้องและทั้งนี้เป็นเหตุในลักษณคดี แม้จำเลยอีกสองคนจะมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ก็ให้ปล่อยไปด้วย
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความว่านายสำราญช้างเถื่อนเข้าไปทำร้ายนายสำราญเดชกุญชรก่อนและจะเข้าไปทำร้าย นายใฮ้อีก ที่นายสำราญเดชกุญชรและนายใฮ้ต่อยและตีไปบ้างก็โดยเจตนาจะป้องกันตน มิใช่เป็นกรณีวิวาทตามฟ้อง จึงพิพากษายืน

Share