แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์แม้จะเป็นเรื่องสั่งไม่รับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 ก็เป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232ซึ่งผู้อุทธรณ์จะต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เมื่อโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนดดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ย่อมมีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดร่วมกันในผลแห่งละเมิดซึ่งทำให้โจทก์เสียหายรวมเป็นเงิน 247,735.34 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ เจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 236,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์โจทก์แล้วเห็นว่าท้ายอุทธรณ์ลงชื่อว่าทนายจำเลยผู้อุทธรณ์ส่วนด้านหน้าเป็นโจทก์จึงขัดกันอยู่ให้ผู้อุทธรณ์แก้ไขข้อผิดพลาดภายใน 7 วันนับแต่วันมีคำสั่งโจทก์ไม่ดำเนินการภายในกำหนดมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าอุทธรณ์คำสั่งมิได้ยื่นภายใน 10 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 จึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามฎีกาของโจทก์ว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 โจทก์จึงฎีกาได้ภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 227 มาตรา 228 และมาตรา 247 นั้นเห็นว่าการที่ศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปศาลอุทธรณ์แม้จะเป็นเรื่องสั่งไม่รับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 เช่นคดีนี้ก็เป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 232 ซึ่งผู้อุทธรณ์จะต้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 เมื่อโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด ดังกล่าวศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์จึงชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.