คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า ‘ฯลฯโดยจำเลยสมคบกันกับพวก 2 คนมีอาวุธลักมาหรือรับไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้ายที่ได้มาจากการกระทำผิด’ ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์ได้บรรยายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วยในคดีแล้ว และคำว่า’กระทำผิด’ นั้น ก็หมายถึงการกระทำผิดต่อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เวลากลางวันที่ 25 พฤษภาคม มีคนร้ายลักกระบือนายทอง แสงนิลไป 1 ตัว รุ่งขึ้นกลางวันพบจำเลยไล่กระบือที่หายไปโดยจำเลยสมคบกับพวกอีก 2 คนมีอาวุธลักมาหรือรับไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้ายที่ได้มาจากการกระทำผิด ขอให้ลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้น ลงโทษจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาได้วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกา คือ (1) จำเลยว่าฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงพวกจำเลย 2 คนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดรายนี้ ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ศาลฎีกาเห็นว่า ในฟ้องก็ได้กล่าวถึงจำเลยกับพวกอีก 2 คนว่ามีอาวุธ จึงไม่เห็นจำเป็นที่โจทก์จะต้องบรรยายอะไรอีก(2) จำเลยว่าโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรับกระบือรายนี้ไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของร้ายที่ได้มาจากการกระทำผิดต่อกฎไม่มีคำว่า”ต่อกฎหมาย” ไม่เป็นฟ้องที่ชอบ ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำในที่นี้ก็หมายความว่า การกระทำผิดต่อกฎหมาย การที่ฟ้องโจทก์ขาดคำว่า”ต่อกฎหมาย” ไปเท่านั้น หาทำให้ฟ้องเสียไปไม่ จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share