คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ว่าถ้ามีสตางค์เกิน 30 บาท ให้ถือว่าไว้เกินสมควรนั้น ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาด ย่อมนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ได้.
พฤตติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร.

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าแม้จำเลยจะมีเหรียญกสาปน์ไว้เกินจำนวน (จำเลยมีสตางค์ไว้ ๔๕ ๔๖ สตางค์) อันต้องด้วยข้อสันนิษฐานของ พ.ร.บ.เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน แต่จำเลยก็สืบหักล้างได้ยังไม่ไพอฟังว่าจำเลยมีไว้เกินสมควรสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายปรกติ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามศาลล่างทั้ง ๒ ในคดีนี้เมื่อพิเคราะห์ถึงฐานะของจำเลยซึ่งเข้าหุ้นกันทำการค้าขายกับพวกอีก ๔ คน และค้าขายได้สตางค์รายนี้มาเพียง ๓-๔ วันยังไม่ทันแบ่ง ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีไว้เกินสมควรสำหรับปรกติธุระ หรือเกินจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายปรกติ แม้จจะถือว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองเกิน ๓๐ บาท อันต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีไว้เป็นจำนวเกินสมควรหรือเกินจำเป็นตาม พ.ร.บ.เงินตราไนภาวะฉุกเฉิน ๒๔๘๔ แก้ไข ๒๔๘๖ มาตรา ๓ ตรีข้อ ๒ แต่ข้อสันนิษฐานนี้กฎหมายใช้คำว่าให้สันนิษฐานไว้ก่อน จึงเป็นอันแน่ว่าไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาย เมื่อจำเลยสืบหักล้างได้จำเลยก็ไม่ต้องรับผิด พิพากษายืน

Share