แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทจำเลยให้การว่าได้เช่าบ้านจาก ช. จำเลยมีสิทธิอยู่ต่อไปจนครบสัญญาเช่า ประเด็นตามคำฟ้องเดิมจึงมีว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่
ที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การที่โจทก์บังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยได้เสียเงินซ่อมบ้านพิพาทเงินกินเปล่าและค่าเช่าล่วงหน้าให้ ช. ผู้ให้เช่าไปนั้น สิทธิของจำเลยหากถูกรบกวนผู้ที่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิคือ ช.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยฟ้องแย้งจึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ส่วนที่จำเลยฟ้องแย้งว่า การดำเนินคดีทางศาลเป็นเหตุให้จำเลยไม่มีเวลาและกำลังใจประกอบการค้าขายทำให้ขาดประโยชน์นั้น ค่าขาดประโยชน์ในการค้าขายไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิบ้านเลขที่ ๒๔/๒๗ โดยซื้อจากผู้มีชื่อ จำเลยอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวตั้งแต่ยังเป็นของเจ้าของเดิม โจทก์แจ้งให้จำเลยออกไปจากบ้านโจทก์ จำเลยไม่ออก จึงเป็นการอยู่โดยละเมิดขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยเช่าบ้านพิพาทจากนางชะอ้อนเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนย่อมรับทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่ต้องให้จำเลยอยู่จนครบสัญญาเช่า โจทก์ทราบดีว่าจำเลยต้องซ่อมบ้านพิพาทเป็นเงิน ๒๘,๕๐๐ บาท ในวันทำสัญญาเช่านางชะอ้อนเรียกเงินกินเปล่า๒๕,๐๐๐ บาท และเก็บค่าเช่าล่วงหน้าอีก ๔๘ เดือนเป็นเงิน ๑๔,๔๐๐ บาท นับได้ว่าจำเลยลงทุนไปแล้ว ๕๗,๙๐๐ บาท การที่โจทก์ใช้อำนาจศาลเพื่อบีบบังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิซึ่งเป็นการละเมิด จำเลยต้องมาดำเนินคดีทางศาลต่อสู้กับโจทก์ ไม่มีเวลาและกำลังใจดำเนินกิจการค้าทำให้จำเลยขาดประโยชน์คิดเป็นเงิน ๑๒๑,๕๐๐ บาท รวมแล้วจำเลยได้รับความเสียหาย ๑๗๙,๔๐๐ บาท แต่จำเลยขอคิดค่าเสียหายเพียง ๑๒๐,๐๐๐ บาทขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาทแก่จำเลย
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การ ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รับฟ้องแย้งไว้พิจารณา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๗ วรรค ๓ ประสงค์ให้ศาลพิจารณาคดีเป็นเรื่อง ๆ ไม่ปะปนกันคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากบ้านพิพาท จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยเช่าบ้านพิพาทจากนางชะอ้อน จำเลยมีสิทธิอยู่ต่อไปจนกว่าจะครบสัญญาเช่า ประเด็นตามคำฟ้องเดิมของโจทก์จึงมีว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารหรือไม่ ฟ้องแย้งของจำเลยข้อแรกที่ว่า การที่โจทก์บังคับให้จำเลยออกจากบ้านพิพาทเป็นการรอนสิทธิซึ่งเป็นการละเมิด เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายเพราะจำเลยได้เสียเงินซ่อมบ้านพิพาท กับเสียเงินกินเปล่าและค่าเช่าล่วงหน้าให้นางชะอ้อนไปนั้น เห็นว่าสิทธิของจำเลยหากถูกรบกวนผู้ที่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิคือนางชะอ้อนผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยตามสัญญาเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๕ ประกอบด้วยมาตรา ๕๔๙ ฟ้องแย้งของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนฟ้องแย้งข้อต่อไปที่ว่าการดำเนินคดีทางศาลต่อสู้กับโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยไม่มีเวลาและกำลังใจประกอบการค้าขายทำให้ขาดประโยชน์นั้น เห็นว่าค่าขาดประโยชน์ในทางการค้าไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารหรือไม่ ฟ้องแย้งของจำเลยข้อนี้จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมเช่นกัน
พิพากษายืน