แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินจะฟ้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่านาเลิกทำนาหรือขับไล่จำเลยได้ก็ต่อเมื่อได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524กรณีสิ้นระยะเวลาการเช่านาแล้วและผู้ให้เช่านาใช้สิทธิบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา37กรณีหนึ่งหรือกรณีผู้ให้เช่านาใช้สิทธิบอกเลิกการเช่านาก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่านาตามมาตรา31อีกกรณีหนึ่งทั้งสองกรณีดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคชก.ตำบลจะวินิจฉัยซึ่งคำวินิจฉัยคชก.ตำบลอาจอุทธรณ์ไปยังคชก.จังหวัดและศาลได้ตามมาตรา56และมาตรา57ตามลำดับเมื่อคชก.จังหวัดวินิจฉัยถึงที่สุดว่าจำเลยไม่มีสิทธิที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์เพราะมิได้ใช้สิทธิขอซื้อคืนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วโจทก์ก็มาฟ้องขอให้จำเลยเลิกทำนาโดยมิได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกรณีดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองเลิกทำนาหรือหยุดกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองเลิกทำนาและกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่ดินพิพาทเดิมเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 1856 ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของนายปาน เตมียชาติและให้จำเลยทั้งสองเช่าทำนา เมื่อนายปานตายที่ดินพิพาทตกเป็นมรดกได้แก่นางสงบ วงศ์ทองทิวนางสงบจดทะเบียนขายให้โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องต่อคชก. ตำบลลำโพ ขอซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ คชก.ตำบลลำโพวินิจฉัยให้จำเลยซื้อที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์ โจทก์และนางสงบอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลลำโพ ต่อคชก.จังหวัดนนทบุรีคชก.จังหวัดนนทบุรีวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองมิได้ขอซื้อที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงหมดสิทธิซื้อที่ดินพิพาทคืนคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดนนทบุรีถึงที่สุดแล้วคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ คชก.จังหวัดนนทบุรีจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุดว่าจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิซื้อที่นาคืนจากโจทก์ แต่จำเลยทั้งสองก็ยังคงเป็นผู้เช่านาตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 มาตรา 28 โจทก์จะฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเลิกทำนาหรือขับไล่จำเลยทั้งสองได้ก็ต่อเมื่อได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 กล่าวคือ กรณีสิ้นระยะเวลาการเช่านาแล้วและผู้ให้เช่านาใช้สิทธิบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา 37 กรณีหนึ่งหรือกรณีผู้ให้เช่านาใช้สิทธิบอกเลิกการเช่านาก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่านาตามมาตรา 31 อีกกรณีหนึ่ง ทั้งสองกรณีดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ คชก.ตำบลจะวินิจฉัย ซึ่งคำวินิจฉัยของ คชก.ตำบล อาจอุทธรณ์ไปยัง คชก.จังหวัดและศาลได้ตามมาตรา 56 และมาตรา 57 ตามลำดับ แต่กลับปรากฎว่าเมื่อคชก.จังหวัดนนทบุรีวินิจฉัยถึงที่สุดว่าจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิซื้อที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์เพราะมิได้ใช้สิทธิซื้อคืนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว โจทก์ก็มาฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเลิกทำนาโดยมิได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกรณีดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง
พิพากษายืน