คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3071/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้เช่านาตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524เมื่อโจทก์รับโอนที่ดินแปลงดังกล่าวจึงต้องรับโอนทั้งสิทธิและหน้าที่แม้คชก.จังหวัดจะวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีสิทธิซื้อที่ดินดังกล่าวจากโจทก์และถึงที่สุดแล้วก็ตามแต่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเลิกทำนาหรือขับไล่จำเลยโดยมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯก่อนโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น เจ้าของ ที่ดิน โฉนด ที่ 5175 โดย ซื้อ มาจากนาง สงบ วงศ์ทองทิว ใน ขณะ นั้น จำเลย ทั้ง สอง ซึ่ง เป็น สามี ภรรยา กัน ได้ อาศัย ทำนา ใน ที่ดิน แปลง ดังกล่าว อยู่ ก่อน แล้ว โจทก์ ให้ จำเลย ทั้ง สองอาศัย ทำนา ต่อไป โดย ไม่ คิด ค่าตอบแทน ต่อมา จำเลย ทั้ง สอง ร้องขอ ต่อคชก. ตำบล ลำโพ เพื่อ วินิจฉัย ให้ โจทก์ ขาย นา คืน ให้ จำเลย ทั้ง สอง คชก. ตำบล ลำโพ มี คำวินิจฉัย ให้ โจทก์ ขาย นา คืน แก่ จำเลย ทั้ง สอง โจทก์ อุทธรณ์ คำวินิจฉัย ของ คชก. ตำบล ลำโพ ต่อ คชก. จังหวัด นนทบุรี คชก. จังหวัด นนทบุรี มี คำวินิจฉัย ว่า จำเลย ทั้ง สอง ไม่มี สิทธิ ซื้อ นาคืน จาก โจทก์ จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์ คำวินิจฉัย ของ คชก. จังหวัด นนทบุรีต่อ ศาลชั้นต้น ใน ที่สุด ศาล มี คำสั่ง จำหน่ายคดี แต่ จำเลย ทั้ง สองยัง คง ทำนา ต่อมา ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง เลิก ทำนา หรือ หยุด กระทำการใด ๆ อันเป็น การ รบกวน การ ครอบครอง ใน ที่ดิน ของ โจทก์
จำเลย ให้การ ว่า นาง สงบ ได้ ขาย นา ให้ แก่ โจทก์ โดย มิได้ แจ้ง ให้ จำเลย ทั้ง สอง ทราบ จำเลย ทั้ง สอง ย่อม มีสิทธิ ที่ จะ ทำนา ต่อไป โจทก์ไม่มี อำนาจฟ้อง เพราะ ยัง ไม่ได้ บอกเลิก การเช่านา ตาม พระราชบัญญัติการเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524 ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง เลิก ทำนา และ กระทำการ ใด ๆอันเป็น การ รบกวน การ ครอบครอง ที่ดิน โฉนด เลขที่ 5175 ตำบล ลำโพ อำเภอ บางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี ของ โจทก์
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “แม้ คชก. จังหวัด นนทบุรี จะ มี คำวินิจฉัยถึงที่สุด ว่า จำเลย ทั้ง สอง ไม่มี สิทธิ ซื้อ ที่นา คืน จาก โจทก์ แต่ จำเลยทั้ง สอง ก็ ยัง คง เป็น ผู้เช่า นา ตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 28 โจทก์ จะ ฟ้อง ขอให้ จำเลย ทั้ง สองเลิก ทำนา หรือ ขับไล่ จำเลย ทั้ง สอง ได้ ก็ ต่อเมื่อ ได้ ปฏิบัติ ตามบทบัญญัติ แห่ง พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524กล่าว คือ กรณี สิ้น ระยะเวลา การเช่านา แล้ว และ ผู้ให้เช่า นา ใช้ สิทธิบอกเลิก การเช่านา ตาม มาตรา 37 กรณี หนึ่ง หรือ กรณี ผู้ให้เช่า นาใช้ สิทธิ บอกเลิก การเช่านา ก่อน สิ้น กำหนด ระยะเวลา การเช่านา ตามมาตรา 31 อีก กรณี หนึ่ง ทั้ง สอง กรณี ดังกล่าว อยู่ ใน อำนาจ หน้าที่ ของคชก. ตำบล จะ วินิจฉัย ซึ่ง คำวินิจฉัย ของ คชก. ตำบล อาจ อุทธรณ์ ไป ยังคชก. จังหวัด และ ศาล ได้ ตาม มาตรา 56 และ มาตรา 57 ตามลำดับแต่ กลับ ปรากฏว่า เมื่อ คชก. จังหวัด นนทบุรี วินิจฉัย ถึงที่สุด ว่าจำเลย ทั้ง สอง ไม่มี สิทธิ ซื้อ ที่ดินพิพาท คืน จาก โจทก์ เพราะ มิได้ใช้ สิทธิ ซื้อ คืน ภายใน ระยะเวลา ที่ กฎหมาย กำหนด แล้ว โจทก์ ก็ มา ฟ้องขอให้ จำเลย ทั้ง สอง เลิก ทำนา โดย มิได้ ดำเนินการ อย่างหนึ่ง อย่างใดตาม กรณี ดังกล่าว โจทก์ จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง ที่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายก ฟ้องโจทก์ ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย ฎีกา โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share