คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3062/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

กรมสรรพากรจำเลยที่2ยึดที่ดินของโจทก์ขายทอดตลาดเอาเงินชำระภาษีที่โจทก์ค้างชำระจำเลยที่1ซึ่งดำรงตำแหน่งสรรพากรจังหวัดอยู่ในสังกัดจำเลยที่2ย่อมมีหน้าที่โดยตรงในการนำที่ดินที่ยึดออกขายทอดตลาดและจำเลยที่1เป็นผู้เสนอจำเลยที่3ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่1เป็นคณะกรรมการขายทอดตลาดแม้จำเลยที่1ไม่ได้เป็นกรรมการด้วยก็ต้องถือว่าจำเลยที่1กระทำในนามของจำเลยที่2และเป็นผู้ทอดตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา511จึงเป็นผู้ต้องห้ามที่จะเข้าสู้ราคาซื้อที่ดินในการขายทอดตลาดซึ่งตนเป็นผู้อำนายการเองตามประกาศของจำเลยที่3การที่จำเลยที่1ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดจึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นสรรพากรจังหวัดนนทบุรีสังกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย จำเลยที่ 3เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เมื่อปี 2523 โจทก์เป็นหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำเลยที่ 2 จำนวน 121,700 บาท เมื่อวันที่18 ธันวาคม 2529 สรรพากรอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ของโจทก์ เพื่อนำออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ภาษีดังกล่าวโจทก์จึงติดต่อขอผ่อนชำระหนี้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของโจทก์ต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 ภายในกำหนดเวลา 5 งวด เมื่อโจทก์ผ่อนชำระหนี้ที่ค้างชำระได้เพียง 3 งวด จำเลยที่ 2 ตามคำสั่งหรือโดยอนุญาตจากจำเลยที่ 3 ได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ของโจทก์ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2532 เวลา 10 นาฬิกา ณ สำนักงานสรรพากรจังหวัดนนทบุรี มีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขายทอดตลาดหรือผู้อำนวยการขายทอดตลาด จำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิจะเข้าประมูลซื้อทรัพย์ดังกล่าวได้ แต่จำเลยที่ 1 กลับเข้าสู้ราคาซื้อทรัพย์ดังกล่าวโดยไม่สุจริตและประมูลซื้อในราคา 770,000 บาท ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงซึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท แล้วจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์เป็นของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ของโจทก์ ให้จำเลยทั้งสามจดทะเบียนเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 ให้กลับคืนฐานะเดิม หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสาม
จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นผู้ขายทอดตลาดและไม่ได้เป็นผู้อำนวยการขายทอดตลาดที่ดินของโจทก์ จึงมีสิทธิเข้าสู้ราคาซื้อทรัพย์ของโจทก์จากการขายทอดตลาดได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีที่ขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2532 และเพิกถอนนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 1จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กลับสู่ฐานะเดิม หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 คำขออื่นให้ยกจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเข้าสู้ราคาซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ของโจทก์ในการขายทอดตลาดตามประกาศของจำเลยที่ 3 ฉบับท้ายฟ้องหมายเลข 3 หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า แม้จำเลยที่ 1 ไม่มีชื่อเป็นกรรมการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 เป็นสรรพากรจังหวัดนนทบุรี มีหน้าที่ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินโจทก์ โดยเป็นผู้เสนอชื่อคณะกรรมการจัดการขายทอดตลาดที่ดินโจทก์ให้จำเลยที่ 3 เป็นผู้แต่งตั้ง การขายทอดตลาดจึงอยู่ในความควบคุมดูแลของจำเลยที่ 1 โดยตลอด ถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทอดตลาดและผู้อำนวยการขายทอดตลาดที่ดินโจทก์ จึงเป็นผู้ต้องห้ามมิให้เข้าเป็นผู้สู้ราคาในการขายทอดตลาดที่ดินโจทก์ เห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 32399 ของโจทก์มาเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระภาษีเงินได้ที่โจทก์ค้างชำระแล้ว จำเลยที่ 1 ซึ่งอยู่ในสังกัดจำเลยที่ 2 ย่อมมีหน้าที่โดยตรงในการดำเนินการนำที่ดินที่ยึดขายทอดตลาด และเมื่อจำเลยที่ 1 ได้เสนอจำเลยที่ 3แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการขายทอดตลาดที่ดินของโจทก์โดยคณะกรรมการทั้งสามคนที่จำเลยที่ 1 เสนอแต่งตั้งนี้ล้วนแต่เป็นข้าราชการผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น ซึ่งจำเลยที่ 3ก็แต่งตั้งตามที่จำเลยที่ 1 เสนอนั้น การกระทำของจำเลยที่ 1ดังกล่าวถือได้ว่าทำในนามของจำเลยที่ 2 ทั้งสิ้น แม้จำเลยที่ 1มิใช่เป็นกรรมการจัดการขายทอดตลาดด้วยก็ตาม ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทอดตลาดตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 511 เมื่อจำเลยที่ 1 มีฐานะเป็นผู้ทอดตลาดแล้ว จำเลยที่ 1จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวที่จะเข้าสู้ราคาซื้อที่ดินโจทก์ในการขายทอดตลาดซึ่งตนเป็นผู้อำนวยการเองตามประกาศของจำเลยที่ 3 ฉบับท้ายฟ้องหมายเลข 3 นั้น การซื้อที่ดินโจทก์จากการขายทอดตลาดของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การซื้อที่ดินโจทก์จากการขายทอดตลาดของจำเลยที่ 1ชอบแล้วนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับ ให้ บังคับคดี ตาม คำพิพากษา ของ ศาลชั้นต้น

Share