แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลักท่อน้ำประปาสำหรับจ่ายน้ำเข้าบ้านผู้มีชื่อของผู้มีชื่อนั้นไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในภาวะคับขัน 2486 มาตรา 3 ด้วยไม่ได้เพราะฟ้องไม่ปรากฏว่าทรัพย์ที่ลักเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันถอดท่อน้ำประปา ซึ่งใช้สำหรับจ่ายน้ำประปาเข้าไปในบ้านนางวัชรีแทรคนิค แล้วลักท่อน้ำประปาหนึ่งท่อนราคา 300 บาทของนางวัชรีไป เป็นเหตุให้การจ่ายน้ำประปาเข้าไปในบ้านนางวัชรีเกิดขัดข้อง ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 288, 293 พระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3
จำเลยทั้งสองรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 293
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะเอาผิดจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 จะต้องได้ความว่าทรัพย์ (ท่อน้ำประปา) ที่จำเลยลักเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าท่อน้ำประปาที่จำเลยลักนี้ ใช้สำหรับจ่ายน้ำเข้าบ้านนางวัชรีจึงนับว่าเป็นของส่วนบุคคล ไม่ใช่เพื่อสาธารณะจะยกบทพระราชบัญญัติที่กล่าวมาใช้บังคับไม่ได้ จึงพิพากษายืน