คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3054/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บ้านประตูหน้าต่างของกลางมีตะปูขันเกลียว มีสลักยึดและไสกบประกอบขึ้นอย่างมั่นคง มีลักษณะอย่างเดียวกับบานประตูหน้าต่างที่มีขายทั่วไป แสดงให้เห็นเจตนาเพื่อจะใช้เป็นบานประตูหน้าต่างโดยเฉพาะ แม้ยังไม่ได้เซาะร่อง ติดกลอน และติดบานพับก็เป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่ไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4(4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 4
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2516)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. แปรรูปแล้ว 115 แผ่น มีลักษณะเป็นบานประตูหน้าต่างโกลนจำนวน 115 บานปริมาตรเนื้อไม้ 2.05 ลูกบาศก์เมตรอันยังไม่สำเร็จรูป ใช้การไม่ได้และไม่ใช่ไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ทั้งไม่เคยอยู่ในสภาพเช่นนั้นมาแล้วไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษและริบไม้ของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ลงโทษตามมาตรา 73 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 17 ให้จำคุก 1 ปี ริบไม้ของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม้ของกลางเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ หาใช่ไม้แปรรูปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ไม้ของกลางให้คืนเจ้าของ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “บานประตูหน้าต่างของกลางมีตะปูขันเกลียวมีสลักยึดและไสคมประกอบขึ้นอย่างมั่นคง มีลักษณะอย่างเดียวกับบานประตูหน้าต่างที่มีขายทั่ว ๆ ไป แสดงให้เห็นเจตนาเพื่อจะใช้เป็นบานประตูหน้าต่างโดยเฉพาะ แม้บานลูกตั้งจะยาวเลยขอบไม้ไปประมาณ 1-2 เซนติเมตร ก็เพราะตามปกติวิธีใช้บานประตูหน้าต่างติดกับตัวอาคารนั้น จะต้องปรับบานประตูหน้าต่างให้เข้ากับวงกบซึ่งต้องติดตั้งกับตัวอาคารก่อน ไม่ว่าจะซื้อบานประตูหน้าต่างตามร้านค้าหรือประกอบเองมาติด และบานประตูหน้าต่างตามปกติย่อมมีขนาดมาตรฐาน ไม่ว่าขนาดใด ย่อมจะมีขนาดกว้างยาวกว่าวงกบขนาดเดียวกันเล็กน้อยทั้งนี้ เพื่อสะดวกแก่การใช้นั่นเอง บานประตูหน้าต่างของกลางจึงมีสภาพพร้อมที่จะนำไปใช้ได้กับวงกบดังกล่าว ส่วนการเซาะร่องติดกลอน และบานพับ ก็เป็นเรื่องของการตกแต่งติดตั้งเท่านั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าไม้ของกลางเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูปไปแล้ว จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้าง มิใช่วัตถุที่จะเอาไปเปลี่ยนแปลงทำเป็นสิ่งของอื่นต่อไป ไม้ของกลางที่จำเลยมีไว้จึงมิใช่ไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4(4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 4 จำเลยจึงไม่มีความผิด ฯลฯ”

พิพากษายืน

Share