คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3052/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ. ขับรถยนต์ด้วยความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ไม่เกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด แต่ตรงที่เกิดเหตุมีทางแยกจะต้องขับรถให้ช้าลงกว่านี้อีก การที่ พ. ขับรถด้วยความเร็วดังกล่าวและขณะที่ขับรถมาใกล้จะถึงที่เกิดเหตุก็ได้เห็นรถที่จอดรออยู่ตรงเกาะกลางถนนแล้ว ก็น่าจะชะลอความเร็วของรถลงบ้างหรือมิฉะนั้นเมื่อเห็นมีรถซึ่งรออยู่ตรงเกาะกลางถนนแล่นตัดหน้าไปคันหนึ่งแล้ว ก็ควรห้ามล้อให้รถชะลอความเร็วลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องหักรถหลบไปจนปีนเกาะกลางถนนดังนี้ถือได้ว่า พ. มีส่วนประมาทด้วย
คดีก่อนพนักงานอัยการฟ้อง พ. ว่าขับรถยนต์โดยประมาทตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้ถูกฟ้องด้วยดังนี้แม้ในคดีดังกล่าวศาลจะวินิจฉัยว่าไม่อาจถือว่าพ. ขับรถโดยประมาทก็ตาม การพิพากษาคดีนี้ก็ไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์รับประกันภัยรถยนต์เก๋งยี่ห้อดัทสันหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 กรุงเทพมหานครไว้จากนายพรเทพเจ้าของรถจำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากันและเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าหมายเลขทะเบียน 9ก-8145 กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 5ธันวาคม 2524 นายพรเทพได้ขับรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 ตามถนนรามคำแหงจากบางกะปิมุ่งหน้าไปทางคลองตันด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วยความระมัดระวัง ครั้นใกล้จะถึงปากซอยอุดมยศจำเลยที่ 1 ซึ่งขับรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 9ก-8145 วิ่งสวนมาจากคลองตันมุ่งหน้าไปทางบางกะปิด้วยความเร็วสูงปราศจากความระมัดระวังเลี้ยวขวากลับรถอ้อมเกาะกลางถนนเข้าถนนทางตรงเพื่อไปทางคลองตันตัดหน้ารถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 ในระยะกระชั้นชิดนายพรเทพจึงห้ามล้อและหักหลบไปทางขวาโดยกะทันหันทำให้รถยนต์เก๋งคันหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 เสียหลักพุ่งเข้าชนเกาะกลางถนนได้รับความเสียหายโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถคันที่รับประกันภัยรวมเป็นเงิน 23,750 บาทขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2525 ถึงวันฟ้องรวมเป็นเงิน 25,234 บาทและให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 23,750 บาทนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่าจำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยประมาท ฝ่ายโจทก์เป็นผู้ขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแข่งกับรถคันอื่นแล้วแซงรถโดยสารประจำทางโดยประมาททำให้ไม่เห็นรถของจำเลยเมื่อเห็นรถของนายสรายุทธชนท้ายรถของจำเลยที่ 1จึงตกใจหักหลบข้ามเกาะไปเองโจทก์เสียหายไม่เกิน 2,000 บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ 15,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2525 จนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 9ก-8145 จากคลองตันเลี้ยวกลับอ้อมเกาะกลางถนนเพื่อไปทางคลองตันตัดหน้ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 ที่นายพรเทพขับมาจากทางบางกะปิจะไปทางคลองตันนายพรเทพจึงหักรถหลบไปทางขวาปืนข้ามเกาะกลางถนนไปในช่องทางเดินรถอีกด้านหนึ่งทำให้รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2ง-4033 ของนายพรเทพซึ่งโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยไว้ได้รับความเสียหายโจทก์ได้ทำการซ่อมแซมให้แล้วคงมีปัญหาว่านายพรเทพมีส่วนขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายด้วยเพียงใดหรือไม่นั้น เมื่อพิจารณาตามแผนที่เกิดเหตุเอกสารหมาย จ.1 ในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 8076/2526ของศาลแขวงพระนครเหนือปรากฏว่าตรงที่เกิดเหตุมีทางแยกเข้าซอยอุดมยศรถที่จำเลยที่ 1 ขับเลยเข้าช่องทางเดินรถช่องที่ 1ติดทางเท้าด้านซอยอุดมยศแล้วจึงถูกรถคันที่นายสรายุทธขับชนท้ายด้านขวา ส่วนนายพรเทพขับรถอยู่ในช่องทางเดินรถช่องที่ 3ติดเกาะกลางถนนรถที่จำเลยที่ 1 ขับผ่านหน้ารถที่นายพรเทพขับไปแล้วรถที่นายพรเทพขับจึงปืนเกาะกลางถนนเข้าไปในช่องทางเดินรถด้านที่วิ่งสวนทางมาหากนายพรเทพขับช้าลงสักเล็กน้อยก็ไม่จำเป็นต้องหลบไปทางขวาแม้จะฟังว่านายพรเทพขับรถด้วยความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งไม่เกินกำหนดที่กฎหมายบังคับให้วิ่งในเขตกรุงเทพมหานครได้แต่ตรงที่เกิดเหตุมีทางแยกจะต้องขับรถให้ช้าลงกว่านี้อีกการที่นายพรเทพขับรถด้วยความเร็วดังกล่าวและขณะที่ขับรถมาใกล้จะถึงที่เกิดเหตุก็ได้เห็นรถที่จอดรออยู่ตรงเกาะกลางถนนแล้วก็น่าจะชะลอความเร็วของรถลงบ้างหรือมิฉะนั้นเมื่อเห็นมีรถขับตัดหน้าไปแล้วก็ควรห้ามล้อให้รถชะลอความเร็วลงได้โดยไม่จำเป็นต้องหักรถหลบไปจนปีนเกาะกลางถนน แต่ตามแผนที่เกิดเหตุไม่มีรอยห้ามล้อของรถคันที่นายพรเทพขับเลยถือได้ว่านายพรเทพมีส่วนประมาทด้วยที่โจทก์ฎีกาว่าศาลแขวงพระนครเหนือได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นที่สุดแล้วว่าไม่อาจถือได้ว่านายพรเทพขับรถด้วยความประมาทนั้นเป็นเรื่องที่พนักงานอัยการฟ้องนายพรเทพกับนายสรายุทธฝ่ายเดียวจำเลยไม่ได้ถูกฟ้องด้วยและเป็นการฟ้องฐานความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกการพิพากษาคดีนี้จึงไม่ต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาดังกล่าวเมื่อฟังว่านายพรเทพมีส่วนขับรถโดยประมาททำให้เกิดเหตุครั้งนี้โจทก์จึงสมควรให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแต่เพียงบางส่วน
พิพากษากลับให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share