คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3031/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญา เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้องแล้วศาลชอบที่จะต้องออกหมายเรียกหรือหมายจับจำเลยมาแล้วแต่ควรอย่างใดเพื่อให้ได้ตัวจำเลยมาอยู่ในอำนาจศาลเสียก่อนแล้วจึงทำการพิจารณาต่อไป การที่ศาลสั่งกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยยังไม่ได้ตัวจำเลยมาศาล จึงเป็นกระบวนพิจารณาข้ามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่มาศาลตามนัด ในวันนั้นก็ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในอำนาจศาลวันเวลาที่นัดไว้จึงถือไม่ได้ว่าเป็นวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามวันเวลาดังกล่าวจะถือเป็นเหตุยกฟ้องโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166 ประกอบด้วยมาตรา 181 หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 20,000 บาท ให้จำเลยที่ 2นำมาแลกเงินสดไปจากโจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยจำเลยที่ 1 มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน จึงเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯ และโดยจำเลยทั้งสองร่วมกันฉ้อโกงโจทก์ ขอให้ลงโทษ

ศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เมื่อไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 และสั่งให้จำเลยที่ 1 มาให้การแก้คดีในวันที่ 25 มีนาคม 2525เวลา 8.30 นาฬิกา อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์โดยทนายจำเลยที่ 1 จะแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 ทราบเอง

เมื่อถึงวันที่ 25 มีนาคม 2525 ทนายจำเลยที่ 1 มาศาล โจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ประกอบด้วยมาตรา 181

โจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งให้พิจารณาคดีโจทก์ต่อไป จำเลยที่ 1 คัดค้านว่าคำร้องของโจทก์ไม่มีเหตุอันสมควร

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาแล้วพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ต่อไปตามรูปคดี

จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ขณะศาลชั้นต้นสั่งประทับฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ตัวจำเลยที่ 1 มาอยู่ในอำนาจศาลเพื่อพิจารณาต่อไป และมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย คือไม่ออกหมายเรียกหรือหมายจับจำเลยมาให้อยู่ในอำนาจศาลเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และมาตรา 172 วรรคแรก แม้ศาลชั้นต้นจะนัดสืบพยานโจทก์ไว้ในวันที่ 25 มีนาคม 2525 เวลา 8.30 นาฬิกา ก็เป็นกระบวนพิจารณาที่ข้ามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มาศาลตามนัดในวันนั้นก็ไม่มีตัวจำเลยที่ 1 อยู่ในอำนาจศาล วันที่ 25 มีนาคม 2525 เวลา 8.30 นาฬิกา จึงถือไม่ได้ว่าเป็นวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามวันเวลาดังกล่าว ศาลชั้นต้นจะถือเป็นเหตุยกฟ้องโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ประกอบด้วยมาตรา 181 หาได้ไม่ ชอบที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับจำเลยที่ 1 มาแล้วแต่ควรอย่างใดเพื่อให้ได้ตัวจำเลยมาอยู่ในอำนาจศาลเสียก่อนแล้วจึงทำการพิจารณาต่อไป

พิพากษายืน

Share