คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3030/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้ขวานด้ามยาว 80 เซนติเมตร หน้าขวานกว้าง 10 เซนติเมตร ฟันศรีษะผู้ตายที่บริเวณเหนือหูซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญอย่างแรงจนกะโหลกศรีษะแตก สมองบวมโลหิตไหลจนแพทย์ไม่สามารถห้ามโลหิตได้ ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยฟันโดยเจตนาฆ่า ที่จำเลยไม่ฟันซ้ำเมื่อผู้ตายล้มลงและอุ้มผู้ตายไปรอขึ้นรถไปโรงพยาบาลนั้นเป็นเหตุการณ์หลังจากจำเลยฟันผู้ตายแล้ว เป็นการกระทำไปโดยสำนึกในความผิดที่ทำไปแล้ว หาทำให้การกระทำของจำเลยที่กระทำก่อนหน้านั้นซึ่งเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้ตาย กลับเป็นการกระทำที่ขาดเจตนาฆ่าผู้ตายไม่
จำเลยเชื่อว่าต้นสะแบงที่ผู้ตายตัดมาไว้ที่นาของผู้ตายเป็นของจำเลยจึงเข้าไปพูดกับผู้ตาย ผู้ตายไม่ยอมรับว่าต้นสะแบงดังกล่าวตัดมาจากที่ดินของจำเลย และผู้ตายพูดกับจำเลยว่า “มึงจะไปที่ไหนก็ไป กูไม่กลัวมึงหรอก” จำเลยจึงใช้ขวานฟันผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าขณะจำเลยจะใช้ขวานฟันผู้ตาย จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายที่ศีรษะโดยเจตนาฆ่า ผู้ตายถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยบันดาลโทสะและโดยเจตนาฆ่าพิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตายนั้นการที่จำเลยใช้ขวานด้ามยาว ๘๐ เซนติเมตร หน้าขวานกว้าง ๑๐ เซนติเมตร ฟันศีรษะผู้ตายที่บริเวณเหนือหูซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญอย่างแรงจนกะโหลกศีรษะด้านนั้นแตก สมองบวม โลหิตจากเส้นเลือดดำไหลจนแพทย์ไม่สามารถห้ามโลหิตได้เช่นนี้ ฟังได้ว่าจำเลยฟันโดยเจตนาฆ่าที่จำเลยไม่ฟันซ้ำเมื่อผู้ตายล้มลงและอุ้มผู้ตายไปที่ถนนเพื่อรอขึ้นรถยนต์ประจำทางไปโรงพยาบาลนั้นเป็นเหตุการณ์หลังจากจำเลยฟันผู้ตายแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยสำนึกในความผิดที่จำเลยได้กระทำไปแล้ว การกระทำของจำเลยหลังจากผู้ตายถูกจำเลยฟันล้มลงไปแล้ว หาทำให้การกระทำของจำเลยที่กระทำก่อนหน้านั้นซึ่งฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้ตาย กลับเป็นการกระทำที่ขาดเจตนาฆ่าผู้ตายไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ที่โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒ นั้น ข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยมาพบต้นสะแบงที่นาผู้ตาย จำเลยเชื่อว่าต้นสะแบงดังกล่าวเป็นของจำเลย จึงเข้าไปพูดกับผู้ตาย ผู้ตายไม่ยอมรับว่าต้นสะแบงดังกล่าวตัดมาจากที่ดินของจำเลย และผู้ตายพูดกับจำเลยอย่างคนมีอารมณ์โกรธว่า “มึงจะไปที่ไหนก็ไป กูไม่กลัวมึงหรอก” จำเลยจึงใช้ขวานฟันผู้ตายข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ถือไม่ได้ว่าขณะจำเลยจะใช้ขวานของกลางฟันผู้ตาย จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘

Share