คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีเรื่องยักยอกทรัพย์ซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้น แม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใดศาลแขวงก็มีอำนาจพิพากษาได้
ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่.
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน ๒๐๐๐ บาท ศาลแขวงพระนครเหนือสั่งรับฉะเพาะข้อหาทางอาญา ส่วนข้อที่ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ไม่รับ เพราะขัดอำนาจศาล
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลแขวงพิพากษาลงโทษ
โจทก์อุทธรณ์ฉะเพาะข้อที่ศาลชั้นต้นสั่งให้แยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อที่ให้โจทก์แยกคำฟ้อง ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาในข้อนี้ต่อไปตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๒๐๘(๒)
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่ให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ถูกยักยอก ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา ทรัพย์จะมีราคาเท่าใดกฎหมายไม่จำกัดไว้ ศาลแขวงย่อมมีอำนาจพิพากษาได้จึงพิพากษายืน

Share