คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3019/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ข้อตกลงที่โจทก์ร่วมยอมลดหนี้ตามเช็คทั้งสองฉบับให้แก่จำเลย และยอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้เสร็จในกำหนดเวลา 12 เดือน พร้อมด้วยดอกเบี้ย เมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นแล้วโจทก์ร่วมจะถอนคำร้องทุกข์คดีนี้ให้จำเลยกับพวก ข้อตกลงนี้โจทก์ร่วมไม่ได้ยินยอมถอนคำร้องทุกข์ให้จนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นเป็นข้อตกลงที่มีเงื่อนไข เป็นการให้โอกาสแก่จำเลยผ่อนชำระหนี้โดยยอมให้เลื่อนการพิจารณาคดีไป ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่เป็นการยอมความ จึงไม่มีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

จำเลยให้การรับสารภาพ

ระหว่างพิจารณา นางสาวสุวรรณา พุ่มเกตุ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 เป็นความผิดต่างกรรมกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามเช็คเลขที่ 4621613 จำคุก 3 เดือน เช็คเลขที่ 4621616 จำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติว่าจำเลยกับพวกร่วมกันออกเช็คพิพาทชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม โจทก์ได้ฟ้องจำเลยและในระหว่างพิจารณาคดีสืบพยานโจทก์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2540 โจทก์ร่วมและจำเลยได้ตกลงกันโดยโจทก์ร่วมยอมลดหนี้ตามเช็คทั้งสองฉบับให้แก่จำเลย และยอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้เสร็จในกำหนดเวลา 12 เดือน พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปี เมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นแล้ว โจทก์ร่วมจะถอนคำร้องทุกข์คดีนี้ให้จำเลยกับพวก คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยประเด็นแรกว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเช็ค มีผลเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความอันจะทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) หรือไม่ เห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวโจทก์ร่วมไม่ได้ยินยอมถอนคำร้องทุกข์ให้จนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้น เป็นข้อตกลงที่มีเงื่อนไข เป็นการให้โอกาสแก่จำเลยผ่อนชำระหนี้โดยยอมให้เลื่อนการพิจารณาคดีไป ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่เป็นการยอมความ จึงไม่มีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยในประเด็นนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น ได้พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า การกระทำความผิดของจำเลยไม่รุนแรง จำเลยเป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาทและจำเลยได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมอันเป็นการบรรเทาผลร้ายให้แก่โจทก์ร่วมบ้างแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดและถูกดำเนินคดีมาก่อนเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้งโดยรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยในประเด็นนี้ฟังขึ้น”

พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค

Share