คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3014/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ การซื้อขายรายนี้มีการส่งมอบสินค้าให้แก่กันแล้วเป็นการชำระหนี้บางส่วน โจทก์จึงฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ และเมื่อเป็นตัวแทนเชิดแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องให้กรรมการจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งซื้อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชำระราคาให้โจทก์เพราะจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ในการซื้อ เป็นการวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียวเป็นผู้ซื้อไม่ใช่การวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จากโจทก์ราคา 239,560 บาท กำหนดชำระราคาภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับสินค้าแต่จำเลยทั้งสองไม่ชำระ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 270,719 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 239,560 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยสั่งซื้อและไม่เคยได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์จากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 239,560 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2535 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่า จำเลยที่ 2 ได้สั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไปจากโจทก์และได้รับสินค้าไปแล้ว จำเลยทั้งสองไม่ได้ชำระราคาให้โจทก์

คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 ได้ให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของตนสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์หรือไม่ และจำเลยที่ 1 ต้องชำระราคาสินค้าแก่โจทก์หรือไม่

พิเคราะห์แล้ว พยานโจทก์มีนายธาตรีพันธ์ บำรุง เบิกความว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งไปให้จำเลยที่ 1 ราคา 239,560 บาท จำเลยที่ 1 มีนายสุรศักดิ์สุวัฒนศิลป์ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตรากระทำการแทนจำเลยที่ 1 เบิกความว่า จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของบริษัทแมจิกซอฟท์ จำกัด จำเลยที่ 1ได้ว่าจ้างบริษัทแมจิกซอฟท์ จำกัด สร้างระบบงาน (ซอฟท์แวร์) ตามสัญญาจ้างพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ ACC – IN – COM เอกสารหมาย ป.ล.2 ตกลงค่าจ้าง 50,000 บาท ได้ชำระค่าจ้างไปครบถ้วนแล้ว ต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันจำเลยที่ 1 ได้ตกลงซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จากบริษัทแมจิกซอฟท์ จำกัด เป็นเงิน210,000 บาท ปรากฏตามเอกสารหมาย ป.ล.5 ในวันทำสัญญาได้ชำระเงิน65,500 บาท เห็นว่า ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อจากโจทก์แล้วส่งไปให้จำเลยที่ 1 ราคา 239,560 บาท และราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จำเลยที่ 1ทำสัญญาซื้อกับจำเลยที่ 2 ราคา 210,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกัน จำเลยที่ 1 ชำระราคาให้จำเลยที่ 2 ไปส่วนน้อยเพียง 65,500 บาท ยังไม่ชำระอีก 144,500 บาทเมื่อพิเคราะห์ประกอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์อยู่ที่จำเลยที่ 1 ใบสั่งซื้อเอกสารหมาย จ.7 เป็นของจำเลยที่ 1 ถึงแม้จะไม่มีลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 ก็ตาม พฤติการณ์ที่กล่าวมาก็เพียงพอให้ฟังได้แล้วว่าจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 2เป็นตัวแทนซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์

ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า สินค้าราคาเกิน 500 บาท ไม่มีลายมือชื่อจำเลยที่ 1ผู้ต้องรับผิด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า การซื้อขายรายนี้มีการส่งมอบสินค้าให้แก่กันแล้วเป็นการชำระหนี้บางส่วน โจทก์จึงฟ้องร้องให้บังคับคดีได้และเมื่อเป็นตัวแทนเชิดแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องให้กรรมการจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งซื้อ

ส่วนที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าโจทก์มิได้ยกเรื่องตัวแทนเชิดเป็นประเด็นขึ้นว่ากล่าวมาแต่ต้น เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นนั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ การที่จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1ในการซื้อเป็นการวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียวเป็นผู้ซื้อ ซึ่งไม่ใช่การวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยให้จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชำระราคาให้โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share