คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้วต้องมีเหตุผลแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่า ตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม เมื่อคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเหตุตามกฎหมายดังกล่าว ศาลไม่อนุญาตให้ระบะพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 เป็นเพียงบทบัญญัติที่กำหนดวิธีการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น
เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังไม่กลับจากต่างประเทศ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกไม่ว่ากรณีใด ๆ ศาลอนุญาตโดยกำชับว่า นัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ส่งประเด็นไปสืบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวและที่ดินจากโจทก์ จำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจากสถานที่เช่า ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ นั้น ปรากฏจากหลักฐานในสำนวนว่า หลังจากศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ซึ่งนำสืบก่อนเสร็จแล้ว ได้นัดสืบพยานจำเลยเมื่อวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานบุคคลและหมายเลขเอกสารเพิ่มเติมโดยอ้างเหตุว่า พยานตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นไว้แล้วยังไม่ครบถ้วนดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ศาลฎีกาเห็นว่า การขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยเป็นกรณีตามมาตรา ๘๘ วรรคสาม ต้องมีเหตุสมควรแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่าตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ คอขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเหตุตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ร้องระบุพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว
ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบตัวจำเลยเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๐๒ นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บทกฎหมายที่จำเลยอ้างเป็นเรื่องวิธีการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความว่า เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยเดินทางไปต่างประเทศยังไม่กลับ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่าในวันนัดคราวหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดจำเลยจะไม่ขอเลื่อนคดีอีก ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยกำชับว่านัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัด ทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาขอให้ส่งประเด็นไปสืบ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดีสั่งงดสืบตัวจำเลย ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการประวิงคดีให้ชัดช้า ดังนั้น ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้ โดยอาศัยมาตรา ๘๖ วรรคสอง คำสั่งของศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พิพากษายืน

Share