คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณที่ถือว่าการขอแก้วันในฟ้องเป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่สู้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ เวลากลางวัน จำเลยบังอาจมีมีดเป็นสาตราวุธฟันต้นผลไม้ของนางสื่อ โข้ยนึ้งเสียหาย ๑๙ บาท ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณอาญา มาตรา ๓๒๔
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้อ้างฐานที่อยู่
เมื่อศาลจังหวัดตรังพิจารณาสืบนางสื่อเจ้าทรัพย์พะยานโจทก์ไป ๑ ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องเป็นว่าจำเลยทำผิดในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ เวลากลางวัน
จำเลยคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้อย่างมาก
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการแก้ฟ้องเช่นนี้ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๔ และถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์ตามม.๑๙๒
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการแก้วันกระทำผิดเป็นเรื่องการขอแก้รายละเอียดในฟ้องและจำเลยหาได้หลงข้อต่อสู้โจทก์ไม่ขอแก้ฟ้องได้ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาไปตามรูปความ
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า การขอแก้วันในฟ้องจะเป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ต้องแล้วแต่กรณีเป็นเรื่อง ๆ ตามฟ้องและคำให้การจำเลย คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๘๓ จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่าตามวันเวลาที่โจทก์หาจำเลยมีฐานที่อยู่ ดั่งนี้การที่โจทก์จะขอแก้ฟ้องเป็นว่าจำเลยทำผิดในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม เดือนเดียวกันซึ่งห่างกันถึง ๒๐ วันนั้นย่อมทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ แม้การขอแก้วันจะเป็นรายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องหรือไม่ทำให้เสียเปรียบก็ดี แต่เมื่อฟังว่าเป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้เช่นในคดีนี้แล้ว ก็ห้ามมิให้ศาลอนุญาตให้แก้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๖๔ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น

Share